ชาวอเมริกันแห่ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทันทีที่ทางการสหรัฐฯ ประกาศให้เป็นธุรกิจจำเป็นช่วงโควิด-19 จนของขาดตลาด ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขกังวลว่าอาจนำไปสู่ภาวะติดเหล้าเรื้อรังช่วงวิกฤตโควิดได้
เดวิส วิลส์ ผู้จัดการร้าน UnWined ที่จำหน่ายไวน์และเบียร์ ในรัฐเวอร์จิเนีย ไม่ไกลจากกรุงวอชิงตัน เผยว่า ชาวอเมริกันแห่มาซื้อเครื่องดื่มแอลกกอฮอล์กันเป็นจำนวนมาก หลังจากที่กลับมาเปิดให้บริการแบบส่งถึงบ้าน และว่ายอดขายเครื่องดื่มเหล่านี้พุ่งสูงขึ้นถึง 30% ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จอร์จ คูบ ผู้อำนวยการสถาบันด้านการเสพติดแอลกอฮอล์ แห่งสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ บอกว่า ตัวเลขผู้ดื่มแอลกอฮอล์ในอเมริกาสูงถึง 70% แล้ว และในแง่ปริมาณการดื่มก็เพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 ด้วย
ผู้อำนวยการสถาบันด้านการเสพติดแอลกอฮอล์ เตือนว่าการที่ผู้คนต้องกักตัวอยู่บ้านและมีความวิตกกังวลช่วงการระบาดของโรค ยิ่งไปเพิ่มความต้องการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้มากขึ้น และอาจกระทบต่อผู้คนที่มีปัญหาการติดเหล้าอยู่แล้ว ซึ่งมีอยู่ราว 14.5 ล้านคนในอเมริกาตอนนี้ และว่าการดื่มแอลกอฮอล์ จะกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และทำให้เสี่ยงต่อการติดโควิด-19 ได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบันร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ใน 49 จาก 50 รัฐ และในกรุงวอชิงตัน เปิดทำการช่วงโควิดระบาด จากที่ยังถือเป็นธุรกิจจำเป็น แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจำหน่ายในระยะนี้เท่านั้น
ด้านองค์การอนามัยโลก แนะให้หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงนี้ โดยบอกว่าผู้ที่เชื่อว่าการนำแอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดจะช่วยป้องกันโควิดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่จริง