สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กองกำลังยูเครนยังคงเดินหน้าต้านทานกองทัพรัสเซียที่เมืองเซเวโรดอแนตสก์ในวันอังคาร ท่ามกลางการระดมโจมตีอย่างหนักหน่วงของรัสเซียในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เพื่อยึดเมืองยุทธศาสตร์ทางภาคตะวันออกของยูเครนแห่งนี้
ทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันว่า กองทัพรัสเซียได้ยึดพื้นที่มากกว่า 3 ใน 4 ของเมืองไว้ได้แล้ว ซึ่งทางกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูคเรนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียระบุว่า การยึดครองเมืองนี้ใช้เวลานานกว่าที่คาดหมายไว้ แม้ว่าได้ใช้การโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
นักวิเคราะห์ด้านการทหารเชื่อว่า รัสเซียได้ทุ่มสรรพกำลังทั้งจำนวนทหารและอาวุธจากส่วนอื่น ๆ ในยูเครนไปยังเมืองเซเวโรดอแนตสก์ เพื่อหมายเอาชัยในพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์และยึดครองฐานที่มั่นขนาดใหญ่แห่งสุดท้ายของทหารยูเครนในเขตปกครองลูฮันสก์ทางภาคตะวันออก
Your browser doesn’t support HTML5
สื่อของทางการรัสเซีย TASS รายงานอ้างคำพูดของผู้นำกองกำลังสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ ซึ่งสนับสนุนรัสเซีย ว่า "1 ใน 3 ของเมืองเซเวโรดอแนตสก์ตกอยู่ในการครอบครองของรัสเซียแล้ว" อย่างไรก็ตาม กองกำลังดังกล่าวยังไม่สามารถรุกคืบหน้าได้เร็วเหมือนที่คาดคิดไว้ เพราะต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้ายึดโครงสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในเมือง
ทางด้านนายกเทศมนตรีเมืองเซเวโรดอแนตสก์ โอเล็กซานเดอร์ สเตรียค กล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียสามารถยึดครองครึ่งหนึ่งของเมืองเอาไว้ได้ ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งนั้นยูเครนยังคงพยายามต้านทานและปกป้องเอาไว้ และว่า รัสเซียได้ยิงโจมตีทำลายโครงสร้างสาธารณูปโภคสำคัญทั้งหมด ตามด้วยการโจมตีภาคพื้นดินครั้งแล้วครั้งเล่าซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่จนถึงขณะนี้กองทัพรัสเซียยังไม่สามารถตีวงล้อมทหารยูเครนเอาไว้ในเมืองแห่งนี้
นายกเทศมนตรีสเตรียค ระบุว่า ยังคงมีประชาชนติดค้างอยู่ภายในเมืองหลายพันคน แต่การอพยพประชาชนออกไปยังไม่สามารถทำได้ หลังจากมีการโจมตีจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง
SEE ALSO: สู้รบเดือดที่สมรภูมิเซเวโรดอแนตสก์ แย่งชิงฐานที่มั่นสุดท้ายฝั่งตะวันออกยูเครนด้านเลขาธิการสภาผู้ลี้ภัยแห่งนอร์เวย์ แยน เอกแลนด์ กล่าวว่า ความเสียหายในเมืองนี้ "น่าสยดสยอง" และเกรงว่า ยังมีประชาชนติดค้างอยู่ในเมืองถึง 12,000 คน ซึ่งหลบอยู่ในหลุมหลบภัยและชั้นใต้ดิน และไม่มีทางเข้าถึงน้ำดื่ม อาหาร ยาและไฟฟ้า
ทั้งนี้ หากรัสเซียยึดครองเมืองเซเวโรดอแนตสก์ได้ ก็จะสามารถกล่าวอ้างชัยชนะเหนือเขตปกครองลูฮันสก์ทั้งหมด ซึ่งเป็นหนึ่งในสองเขตปกครองที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะทำให้แยกตัวเป็นอิสระจากยูเครน
ขณะเดียวกัน ศาลยูเครนมีคำตัดสินในวันอังคาร ลงโทษจำคุกทหารรัสเซีย 2 คนเป็นเวลา 11 ปีครึ่ง จากกรณีการยิงปืนใหญ่โจมตีอาคารของพลเรือนในเมืองคาร์คิฟ โดยทหารทั้งสองคนนั้นยอมรับผิดระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการตัดสินคดีอาชญากรรมสงครามต่อทหารรัสเซียครั้งที่สองในรอบหนึ่งเดือน
- ที่มา: รอยเตอร์