รัฐบาลสหรัฐฯ ขัดขวางไม่ให้รัสเซียซื้อคืนพันธบัตรมูลค่ามากกว่า 600 ล้านดอลลาร์โดยใช้เงินสดสำรองในธนาคารสหรัฐฯ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่รัสเซียอาจผิดนัดชำระหนี้ และยิ่งเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจให้รัฐบาลกรุงมอสโก
หลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สหรัฐฯ และชาติตะวันตกต่างใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย รวมถึงการอายัดเงินสดสำรองระหว่างประเทศที่ธนาคารกลางรัสเซียถือไว้ในสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ด้วย
แต่ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ อนุญาตให้รัฐบาลรัสเซียสามารถใช้เงินสดเหล่านั้นซื้อคืนพันธบัตรโดยใช้เงินดอลลาร์ได้เป็นกรณีไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ตัดสินใจไม่ให้รัสเซียเข้าถึงเงินสดสำรองเหล่านั้นทั้งหมด ในขณะที่รัสเซียมีกำหนดต้องชดใช้หนี้ก้อนใหญ่มูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้รัสเซียต้องตัดสินใจว่าจะนำเงินสดสำรองที่เป็นเงินดอลลาร์ที่เหลืออยู่ออกมาใช้ชำระหนี้ หรือจะเก็บไว้ใช้ในกิจการอื่นเมื่อยามจำเป็น เช่นการใช้สนับสนุนการทำสงครามในยูเครน
ทั้งนี้ รัสเซียจะมีเวลาผ่อนผัน 30 วันหลังกำหนดวันชำระหนี้ แต่หากไม่สามารถชดใช้ได้ก็จะเข้าสู่กระบวนการผิดนัดชำระหนี้ซึ่งจะส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือทางการเงินและเศรษฐกิจโดยรวมของรัสเซียในอนาคต
- ที่มา: รอยเตอร์