นานาชาติโดดเดี่ยวรัสเซียในเวทีโลกอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ UNGA มีมติเรียกร้องให้รัฐบาลมอสโกยุติการก่อสงครามกับยูเครน ด้านไทยเป็นหนึ่งใน 140 เสียงที่ลงคะแนนสนับสนุนมติดังกล่าว รวมทั้งการสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน
ในวันพฤหัสบดี ทางสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ UNGA มีมติสนับสนุน 140 เสียง ให้รัสเซียยุติความรุนแรงกับยูเครน และสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน และไทยเป็นหนึ่งในเจ็ดประเทศกลุ่มอาเซียนที่ลงคะแนนสนับสนุนมติดังกล่าว ขณะที่มี 38 ประเทศที่งดออกเสียง ซึ่งรวมถึงจีน อินเดีย อิหร่าน ลาว และเวียดนาม
ทางทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ลินดา โธมัส-กรีนฟีลด์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการลงคะแนนเสียงท่วมท้นครั้งนี้ว่า ประเทศสมาชิกยูเอ็นส่วนใหญ่ระบุชัดเจนว่า รัสเซียคือผู้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในยูเครน และประเทศสมาชิกยูเอ็น เรียกร้องให้มีการปกป้องพลเมืองทุกคนที่ลี้ภัยจากความขัดแย้ง และเรียกร้องให้มีมาตรการบรรเทาปัญหาความมั่นคงทางอาหารที่เกิดขึ้นจากสงครามอันไร้เหตุผลนี้ และเราร่วมกันแสดงจุดยืนตามกฎบัตรสหประชาชาติ
ด้านทูตรัสเซีย ประจำสหประชาชาติ ได้กล่าวหาชาติตะวันตกว่า ได้สร้างแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อให้ได้รับแรงสนับสนุนในมติดังกล่าว
มติท่วมท้นของ UNGA เมื่อวันพฤหัสบดี เป็นไปในแนวทางเดียวกับมติประณามการบุกรุกยูเครนของรัสเซีย และเรียกร้องให้รัสเซียถอนกองกำลังออกจากยูเครนทั้งหมด เมื่อ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งประเทศสมาชิกยูเอ็น 141 ประเทศ รวมทั้งไทยลงคะแนนสนับสนุน ขณะที่ 5 ประเทศที่โหวตคัดค้านยังคงเป็นรัสเซีย เบลารุส เอริเทรีย เกาหลีเหนือ และซีเรีย เหมือนครั้งก่อน
ทั้งนี้ มติของสมัชชาใหญ่สหประชาชาตินั้นไม่ได้มีผลทางกฎหมาย แต่มีน้ำหนักทางศีลธรรมของประชาคมระหว่างประเทศ และถือเป็นการส่งข้อความที่ชัดเจนไปยังรัฐบาลมอสโกเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน
เหตุรัสเซียบุกยูเครน เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้สร้างวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ในยุโรป ที่บรรดากลุ่มประเทศสมาชิกยูเอ็นมากกว่า 70 ประเทศ ระบุในเวทีสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติช่วงสัปดาห์นี้ว่า เป็นวิกฤตรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
โดยในเวลาเพียงแค่ 1 เดือน ทางสหประชาชาติ ระบุว่า ชาวยูเครนอพยพลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้านราว 3.5 ล้านคน และชาวยูเครน 6.5 ล้านคนต้องพลัดถิ่นจากเหตุการณ์นี้ ประชาชนในยูเครนราว 12 ล้านชีวิตต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ขณะที่องค์การยูนิเซฟ ระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เด็กและเยาวชนชาวยูเครนราว 4.5 ล้านคน หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรเด็กของยูเครนต้องพลัดถิ่นจากการบุกยูเครนของรัสเซียในครั้งนี้