ลิ้งค์เชื่อมต่อ

'ไบเดน' สรุปการหารือ 'สี จิ้นผิง' เกิดผลดีด้านการทหาร เอไอ และยาเฟนทานิล


ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พบกันราว 4 ชม. ในวันพุธ 15 พ.ย. 2566 ที่ ฟีลาลี เอสเตท สถานตากอากาศชานนครซานฟรานซิสโก 
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พบกันราว 4 ชม. ในวันพุธ 15 พ.ย. 2566 ที่ ฟีลาลี เอสเตท สถานตากอากาศชานนครซานฟรานซิสโก 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เห็นพ้องกันในหลายประเด็นระหว่างการประชุมทวิภาคีในวันพุธ นอกรอบจากการประชุมเอเปคที่นครซานฟรานซิสโก ซึ่งรวมถึงการฟื้นการสื่อสารระหว่างกองทัพสองประเทศ และการร่วมมือสกัดกั้นการผลิยาเฟนทานิลที่กำลังระบาดในอเมริกา

ปธน.ไบเดน และปธน.สี พบกันราว 4 ชม. ในวันพุธ ที่ ฟีลาลี เอสเตท สถานตากอากาศชานนครซานฟรานซิสโก

เจ้าหน้าที่รัฐบาลของสองประเทศกล่าวว่า ผู้นำทั้งสองตกลงกันที่จะกลับมาติดต่อทางการทหารอีกครั้งหลังจากตัดสัมพันธ์ไปในช่วงที่อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ส.ส.แนนซี เพโลซี เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว

ประธานาธิบดีไบเดน แถลงสรุปการประชุมว่า "เรากลับสู่การสื่อสารประจำวันโดยตรงและเปิดเผยชัดเจน" พร้อมระบุว่าการสื่อสารที่ผิดพลาดอาจสร้างปัญหาให้แก่ประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ ได้

ไบเดนและสี ยังได้ตกลงกันที่จะระงับการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาเฟนทานิลที่มีส่วนผสมของฝิ่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการระบาดอยู่ในสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังได้เห็นพ้องกันที่จะจัดให้มีการหารือระหว่างคณะผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ของสองประเทศ

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวยกย่องความสำเร็จของการเจรจาทวิภาคีครั้งนี้ โดยบอกว่าเป็นการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผยเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด

ในการเริ่มหารือในวันพุธ ปธน.ไบเดน กล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่า "เรารู้จักกันมานานแล้ว เรามักจะเห็นไม่ตรงกันในหลายเรื่องซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่การประชุมระหว่างเรามักเต็มไปด้วยความซื่อตรงเปิดเผย ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์" และว่า "เราต้องรับประกันให้ได้ว่าการแข่งขันซึ่งกันและกันจะไม่ลุกลามไปเป็นความขัดแย้ง และต้องมีการจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ"

ด้านประธานาธาธิบดีสี กล่าวว่า "ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่สำคัญที่สุดในโลก ควรมีการรับรู้และวางวิสัยทัศน์ในมุมกว้างของการปรับเปลี่ยนโลกอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในศตวรรษนี้ และควรพัฒนาไปในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนของสองประเทศ และเติ่มเต็มความรับผิดชอบสำหรับความก้าวหน้าของมวลมนุษย์"

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวหวังว่าการเจรจาครั้งนี้จะเปิดทางให้มีการหารือครั้งต่อ ๆ ไปในอนาคต

  • ที่มา: รอยเตอร์

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG