ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สำรวจประเด็นน่าสนใจของ APEC ตั้งแต่ การพบกันของไบเดน-สี ไปจนถึงธีมเสื้อผู้นำ


ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเดินทางร่วมการประชุมเอเปคปีที่เเล้วที่กรุงเทพฯ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเดินทางร่วมการประชุมเอเปคปีที่เเล้วที่กรุงเทพฯ

ผู้นำของประเทศและเขตปกครอง 21 แห่งจะมารวมตัวกันที่นครซานฟรานซิสโก เพื่อประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค (APEC: Asia-Pacific Economic Cooperation)

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 30 ของการประชุมสุดยอดเอเปค โดยมีไฮไลต์คือการพบกันที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจีน

ความสำคัญของเอเปค

กลุ่มความร่วมมือนี้มีขนาดเศรษฐกิจรวมคิดเป็น 62% ของจีดีพีโลก และเกือบ 50% ของมูลค่าการค้าโลก

นอกจากนั้นยังมีเขตปกครองที่ไม่ใช่ประเทศ เช่น ฮ่องกง และไต้หวันเป็นสมาชิกด้วย แต่ไม่มีอินเดียอยู่ในกลุ่ม แม้ว่าจะเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก

ความตกลงที่เกิดขึ้นจากการประชุมไม่มีผลบังคับผูกพัน

การประชุมสุดยอดจะเกิดขึ้นในวันพุธถึงศุกร์ ส่วนเวทีคู่ขนานของผู้นำภาคธุรกิจเรียกว่า APEC CEO summit จะเกิดขึ้นระหว่างวันอังคารและพฤหัสบดี

สหรัฐฯ และจีนเห็นว่าเวทีการประชุมนี้ความสำคัญต่อการเเข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ และทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่การพบกันแบบทวิภาคีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดนและประธานาธิบดีจีนสี จิ้นผิง ในวันพุธ​ซึ่งจะเป็นการพบกันแบบซึ่งหน้าครั้งที่สองเท่านั้นตั้งเเต่ไบเดนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ

เจค ซัลลิเเวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า ผู้นำสหรัฐฯ จะพยายามให้เกิดความคืบหน้าเรื่องการจัดตั้งช่องทางสื่อสารระหว่างกองทัพสองประเทศอีกครั้งหนึ่ง

วัตถุประสงค์ของแผนงานดังกล่าวก็เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในการสื่อสาร และการประเมินสถานการณ์ หรือการตัดสินใจพลาด

เป็นที่คาดหมายว่าผู้นำทั้งสองจะหารือกันเรื่องสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส รวมถึงประเด็นอื่น ๆ ด้วยเช่น ไต้หวัน การรุกรานยูเครนของรัสเซีย สิทธิมนุษยชน การค้าและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ รายหนึ่ง

ประเด็นร้อนและการประท้วงที่เอเปค

น่าจะมีการประท้วงเกิดขึ้นที่ซานฟรานซิสโก จากทั้งกลุ่มที่สนับสนุนจีนและที่ต่อต้านรัฐบาลปักกิ่ง ตลอดจนผู้มีต้องการเเสดงความเห็นเรื่องสงครามในตะวันออกกลาง และในยูเครน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ต่างสร้างรอยร้าวภายในเอเปคเองด้วย

เนื่องจากความเห็นต่างในหัวข้อร้อนเเรง จึงเป็นไปได้สูงว่าแถลงการณ์ร่วมจะมีเนื้อหากลาง ๆ เท่านั้น

ส่วนมุมมองที่แหลมคมอาจถูกสะท้อนผ่านเพียงกลุ่มเล็ก ๆ ของประเทศที่มีความเห็นไปในทางเดียวกัน

การเข้าร่วมประชุมของรัสเซียเป็นหัวข้อที่สร้างความเเตกแยกในเอเปค อันเนื่องมาจากที่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อปีที่เเล้ว

ประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิเมียร์ ปูตินไม่ได้เข้าร่วมประชุมเอเปคที่กรุงเทพฯ เมื่อปีที่แล้ว และจะไม่มาปรากฏตัวที่ซานฟรานซิสโกในปีนี้เช่นเดียวกัน

โฟกัสของการประชุมปีนี้

สหรัฐฯ กำหนดว่าหัวข้อหลักของเอเปคปีนี้จะเป็นเรื่องการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดี สำหรับทุกภาคส่วน ภายใต้ชื่อ "Creating a Resilient and Sustainable Future for All"

ทางการอเมริกันมุ่งที่จะสร้างความร่วมมือที่เชื่อมต่อประสานกัน มีความนำสมัยด้านนวัตกรรม และคำนึงถึงภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนเสรีภาพ ความยุติธรรม และการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ ที่สนับสนุนชาวอเมริกันและธุรกิจของประเทศ

เอเปคครั้งนี้ยังต้องการเห็นความคืบหน้าเรื่อง กรอบการค้าที่สหรัฐฯ ริเริ่ม ที่เรียกว่า IPEF (Indo-Pacific Economic Framework for Prosperity) ซึ่งมีทั้งหมดสี่เสาหลัก คือ การค้า ห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และความโปร่งใสและยุติธรรมทางเศรษฐกิจ

ภายใต้รัฐบาลชุดก่อนของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ รัฐบาลอเมริกันถอนตัวออกจากกรอบการค้าเสรี TPP (Trans-Pacific Partnership) ต่อมารัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนจึงได้ริเริ่ม IPEF ขึ้น หากเทียบกับ TPP ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การลดสิ่งกีดขวางทางการค้า IPEF เป็นกรอบการเจรจาที่มีความจำเพาะเจาะจงมากกว่า

ใครเป็นสมาชิกเอเปคบ้าง

สมาชิกเอเปคประกอบด้วย ออสเตรเลีย บรูไน เเคนาดา ชิลี จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีเเเลนด์​ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย สหรัฐฯ และเวียดนาม

ตามปกติประธานาธิบดีไต้หวันจะไม่เข้าประชุมเอเปค เมื่อปีที่เเล้ว ในการประชุมสุดยอดเอเปคที่กรุงเทพฯ ไต้หวันส่ง มอร์ริส ชาง ผู้ก่อตั้งบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่ TSMC เป็นตัวเเทนผู้นำ และปีนี้เขาก็จะเดินทางทำหน้าที่นี้เช่นกันที่ซานฟรานซิสโก

ชุดธีมเดียวกัน

เอเปค 2015 ที่ฟิลิปปินส์
เอเปค 2015 ที่ฟิลิปปินส์

สีสันหนึ่งหนึ่งของเอเปคที่มีมานานคือชุดธีมที่สะท้อนวัฒนธรรมของประเทศเจ้าภาพ ที่มักจะปรากฏที่การถ่ายภาพหมู่ผู้นำในวันสุดท้าย

ประเพณีนี้เกิดขึ้นที่การประชุมเมื่อ 30 ปีก่อนที่เมืองซีเเอตเติลของสหรัฐฯ​ โดยในครั้งนั้น ประธานาธิบดีบิล คลินตันกำหนดชุดธีมเป็นเสื้อเเจ็คเก็ตแบบนักบินทิ้งระเบิด หรือ bomber jacket

ในปีนี้ ยังคงต้องรอดูถึงวันสุดท้ายว่า บรรดาผู้นำจะปรากฏตัวในชุดธีมใด

  • ที่มา: รอยเตอร์

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG