การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ที่ตีพิมพ์ในวันอังคาร ระบุว่า มาตรการล็อคดาวน์ช่วงการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลก ได้ทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงถึง 17% ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ทีมวิจัยกังวลว่าอาจเป็นการปรับลดลงแค่ช่วงระยะสั้นเท่านั้น
การวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ Nature Climate Change ฉบับล่าสุด ระบุว่า ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกลดลง 17% ช่วงเดือนเมษายน จากมาตรการล็อคดาวน์ช่วงโควิดที่ทั่วโลกบังคับใช้ ได้ลดการใช้พลังงานลดอย่างฮวบฮาบในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาคการไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม และการขนส่งคมนาคม ซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมกันมากกว่า 86% ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก
ทีมวิจัยยังคาดว่า แม้ทั่วโลกจะเริ่มผ่อนคลายล็อคดาวน์ และกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น แต่ตัวเลขการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดทั้งปีนี้ จะลดลงอยู่ที่ราว 4-7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และทีมวิจัยได้เรียกร้องให้นานาชาติปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลังสิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 ด้วย