นักวิทยาศาสตร์ขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ WMO พยากรณ์ว่าอุณหภูมิโลกในช่วงสามเดือนจากนี้จะสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก แม้ไม่มีปรากฎการณ์เอลนีญโญ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นก็ตาม
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา อุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยมักเพิ่มขึ้นจากผลกระทบของปรากฎการณ์เอลนีญโญ แต่ WMO ระบุว่า เดือนเมษายนที่ผ่านมาถือเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงที่สุดเท่ากับเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2006 แม้ว่าจะไม่มีปรากฎการณ์เอลนีญโญในปีนี้ก็ตาม
นอกจากนั้น โฆษกของ WMO บอกว่า เดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม ปีนี้ ก็มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงในอันดับต้น ๆ เช่นกัน และเชื่อว่าแนวโน้มดังกล่าวจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์นั้นส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิโลกในระดับที่ไม่ต่างจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ
WMO เชื่อว่าอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นในแต่ละปีเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งส่งผลให้เกิดคลื่นความร้อน พายุ ฝนตกหนักและน้ำท่วมทั่วโลก
WMO ระบุด้วยว่า การระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ยิ่งทำให้ความพยายามควบคุมผลกระทบของภาวะโลกร้อนทำได้ยากยิ่งขึ้น เนื่องจากรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ให้ความสำคัญในเรื่องการควบคุมโรคระบาดมากกว่า ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว การระบาดของเชื้อไวรัสกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกนั้นล้วนมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน