เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารโลกระบุว่า การหลีกเลี่ยงภาษีของบรรดาผู้นำประเทศ นักการเมืองและเศรษฐีทั่วโลก ตามที่เปิดเผยใน Panama Papers หรือ เอกสารลับปานามา ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน และบั่นทอนความพยายามแก้ปัญหาความยากจนของรัฐบาลประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ผู้อำนวยการใหญ่ธนาคารโลก จิม ยอง คิม กล่าวในวันพฤหัสบดีในการประชุมแถลงข่าวที่กรุงวอชิงตันว่า ตนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อการหลีกเลี่ยงภาษีของบรรดานักการเมืองและมหาเศรษฐีทั่วโลก ด้วยการจัดตั้งบริษัทบังหน้าในต่างประเทศ หรือ offshore company ดังที่ระบุไว้ในเอกสารลับปานามา เพราะเป็นการดึงเงินภาษีไปจากส่วนที่รัฐบาลสามารถนำไปใช้แก้ปัญหาความยากจน
ผู้อำนวยการใหญ่ธนาคารโลกยังเรียกร้องให้มีระบบภาษีที่โปร่งใสกว่าเดิม เพื่อลดปัญหาความไม่เท่าเทียมระหว่างคนจนและคนร่ำรวย
นายจิม ยอง คิม ยังได้กล่าวถึงวิกฤติการณ์ผู้อพยพที่ยุโรปกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ในฐานะตนเองก็เคยเป็นผู้อพยพจากเกาหลีใต้มายังอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 1964 โดยบอกว่า หลายประเทศจำเป็นต้องสนับสนุนผู้อพยพเข้าเมืองเพื่อรองรับความต้องการในตลาดแรงงาน เนื่องจากพลเมืองในประเทศเองไม่ต้องการทำงานในบางสาขาที่ขาดแคลนแรงงาน โดยเขาระบุว่า ผู้นำที่ฉลาดจะต้องยอมรับผู้อพยพ
นอกจากนี้ผู้อำนวยการใหญ่ธนาคารโลกยังแสดงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในรัสเซีย เพราะเกรงว่าอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกได้
ขณะเดียวกัน กรรมการผู้จัดการของธนาคารโลก ศรี มัลยานี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีการคลังของอินโดนีเซีย กล่าวถึงกรณีการรั่วไหลของเอกสารลับปานามาว่า เป็นการทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน และอาจทำให้คนทั่วไปลังเลที่จะจ่ายภาษีซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ต้องนำไปพัฒนาประเทศ
คุณศรี มัลยานี กล่าวว่าเมื่อประชาชนทั่วไปเห็นว่าผู้นำ คนมีชื่อเสียงหรือคนร่ำรวย มีบัญชีธนาคารในต่างประเทศ พวกเขาจะเริ่มตั้งคำถามว่า มีไปทำไม? หรือมีไว้เพื่อหลบเลี่ยงภาษีหรือไม่?
ด้านคุณทอม คาร์ดาโมเน่ แห่งสถาบันที่ปรึกษาและการวิจัย Global Financial Integrity ชี้ว่าจำนวนเงินภาษีที่ถูกหลบเลี่ยงตามที่ระบุไว้ในเอกสารที่รั่วไหลนั้น มีมูลค่ามหาศาลและถือเป็นส่วนสำคัญทางเศรษฐกิจของหลายประเทศ
เชื่อว่ามีเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ถูกหลบเลี่ยงดึงออกจากเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก ซึ่งมากกว่าเงินช่วยเหลือและเงินลงทุนจากต่างชาติที่ประเทศเหล่านั้นได้รับ
(ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียงรายงานจากห้องข่าววีโอเอ)