รัฐสภาสหรัฐฯ ยังวุ่นวายต่อเนื่องในวันพุธ ในช่วงที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เป็นอัมพาตหลังการโหวตปลดประธานสภาฯ ออกจากตำแหน่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อวันอังคาร ในระหว่างที่สภาสหรัฐฯ มีเวลาเหลือเพียง 6 สัปดาห์ในการอนุมัติงบประมาณปี 2024 ทั้งฉบับ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลาง หรือ government shutdown และความช่วยเหลือต่างชาติของสหรัฐฯ อยู่ในภาวะชะงักงัน
เมื่อสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และโอกาสที่เสียไปทุกวันในการเฟ้นหาและลงคะแนนเลือกประธานสภาฯ คนใหม่ให้ได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอ ส่งผลกระทบต่อการผลักดันร่างงบประมาณสำคัญหลายอย่าง ทั้งการจัดหาเงินช่วยเหลือด้านการทหารให้แก่ต่างประเทศ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และความพยายามในการต่อต้านอิทธิพลจีนของสหรัฐฯ
เป็นที่คาดหมายว่าบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาล่างตอนนี้จะไม่จัดการลงมติใด ๆ ในสัปดาห์นี้ แต่นักการเมืองพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะหารือกันว่าใครจะรับหน้าที่ผู้ควบคุมสภาผู้แทนราษฎรที่แบ่งขั้วอย่างหนัก และยังต้องได้รับความเห็นชอบทั้งจากในสภาผู้แทนฯ รวมทั้งกับวุฒิสภาที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก เพื่อให้ผ่านร่างงบประมาณได้ทันท่วงที
ในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันที่ผ่านมา การเลือกเฟ้นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่อาจไม่ได้เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนัก โดยส.ส.เควิน แมคคาร์ธีย์ ประธานสภาฯ คนล่าสุดที่ถูกโหวตออกเมื่อวันอังคาร ต้องลงคะแนนเลือกถึง 15 ครั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเพื่อให้ได้นั่งเก้าอี้ประธานสภาฯ สหรัฐฯ
เมื่อวันอังคาร สภาผู้เเทนราษฎรอเมริกันลงมติให้ ส.ส. แมคคาร์ธีย์ พ้นจากตำแหน่งประธานสภาฯ ด้วยคะแนน 216 ต่อ 210 และทำให้เขาเป็นประธานสภาผู้เเทนราษฎรสหรัฐฯ คนเเรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกลงมติให้ออกจากตำแหน่ง
การลุกฮือขึ้นเพื่อถอดถอนเเมคคาร์ธีย์ นำโดยส.ส.เเมตต์ เกตซ์ แนวความคิดขวาจัด ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกันเช่นเดียวกับเเมคคาร์ธีย์ ยื่นญัตติให้มีการโหวตถอดถอนแมคคาร์ธีย์ออกจากตำแหน่ง โดยเกตซ์ไม่พอใจที่เเมคคาร์ธีย์ไม่ตัดลดงบประมาณในระดับที่มากพอ
ขณะที่ส.ส. แมคคาร์ธีย์ มีคุณสมบัติที่จะกลับมาเป็นประธานสภาฯ ได้อีก แต่เขากล่าวปฏิเสธชัดเจนว่าจะไม่กลับไปรับหน้าที่ดังกล่าวเมื่อค่ำวันอังคาร
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น