องค์การอนามัยโลกชี้ว่า เป้าหมายในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของวัณโรคให้ได้ภายในปี ค.ศ. 2030 ตามเเนวนโยบายว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ มีความคืบหน้ามากขึ้น
และองค์การอนามัยโลกหรือ WHO รายงานว่า ตั้งเเต่ปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา งานปราบปรามวัณโรคได้ช่วยรักษาชีวิตคนไว้ได้ 49 ล้านคนทั่วโลก แต่ได้ย้ำด้วยว่ายังมีงานต้องทำอีกมาก
ข้อมูลตัวเลขจากปี 2015 ชี้ว่า มีคนมากกว่า 10 ล้าน 4 แสนคนล้มป่วยด้วยวัณโรคทั่วโลก และเสียชีวิตอย่างน้อย 1 ล้าน 8 เเสนคน โดยผู้ติดเชื้อเเละเสียชีวิตส่วนมากอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า 2 ใน 3 ของจำนวนผู้ป่วยเชื้อวัณโรคทั่วโลก อยู่ในหกชาติ ได้เเก่ อินเดีย อินโดนีเซีย จีน ไนจีเรีย ปากีสถาน และแอฟริกาใต้
บรรดาแพทย์ได้เตือนถึงปัญหาวัณโรคดื้อยาชนิดใหม่ และย้ำว่าต้องใช้ยาปฏิชีวนะบำบัดวัณโรคด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวัณโรคดื้อยาสายพันธุ์ใหม่
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกชี้ว่าทัศนคติทางลบทางสังคม เเละความรังเกียจต่อผู้ป่วยวัณโรค เป็นอุปสรรคต่องานปราบปรามวัณโรค
Ernesto Jaramillo เจ้าหน้าที่การแพทย์ประจำโครงการ Global TB ขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า "คนที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรค อาทิ ผู้อพยพย้ายถิ่น ผู้ต้องขัง คนกลุ่มน้อย ผู้หญิงเเละเด็กยากจน เป็นกลุ่มคนที่เสี่ยงมากที่สุดต่อการเอาเปรียบ ถูกสังคมละเลยเเละถูกปฏิเสธ ปัญหานี้ทำให้คนเหล่านี้ไม่เข้ารับการรักษาวัณโรค"
Jaramillo เจ้าหน้าที่การแพทย์ประจำโครงการ Global TB แห่งองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า "การมีอุปกรณ์ใหม่ๆ ใช้ในการวินิจฉัยและบำบัดวัณโรคยังไม่เพียงพอ หากยังขาดมาตรฐานที่ชัดเจน ในการสร้างความมั่นใจว่ากลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการติดวัณโรคเหล่านี้เข้าถึงการบริการตรวจโรคเเละการบำบัดที่ทันสมัยนี้ อย่างเท่าเทียมกับคนกลุ่มอื่นๆ ในสังคม ซึ่งจะส่งเสริมให้นโยบายหยุดยั้งวัณโรคเป็นผลดีต่อสุขภาพของประชาชนทุกคน"
ด้าน Mario Raviglione ผู้อำนวยการโครงการ Global TB แห่งองค์การอนามัยโลกกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า "ไม่มีประเทศใดในโลกไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจน ปลอดจากความเสี่ยงต่อการระบาดของวัณโรค เขาเตือนว่าผู้ป่วยวัณโรคที่ยากจนถือเป็นอันตราย"
และว่า "เราไม่สามารถกำจัดวัณโรคด้วยการสร้างกำแพงกั้นหรือด้วยการปิดกั้นตนเองจากโลกภายนอก วัณโรคเป็นโรคที่ติดต่อผ่านทางลมหายใจ และคนเราเดินทางไปต่างประเทศทางอากาศซึ่งสะดวกรวดเร็ว และอาจนำโรคติดต่อไปด้วยโดยไม่รู้ตัว"
ดังนั้นเราจึงต้องหาทางรับมือกับโรคติดต่อร้ายเเรงนี้ด้วยมุมมองระดับนานาชาติ
เเนวทางด้านจริยธรรมใหม่ขององค์การอนามัยโลก รวมไปถึงการการเเก้ปัญหาความรังเกียจทางสังคม การเลือกปฏิบัติต่อ ตลอดจนการกีดกันทางสังคมต่อคนที่ติดเชื้อวัณโรค
องค์การอนามัยโลกชี้ว่า การปกป้องสิทธิมนุษยชนของคนที่ติดเชื้อทุกคน จะช่วยป้องกันคนอีกมากมายจากการเสียชีวิต และยังช่วยให้การกำจัดวัณโรคให้หมดไปจากโลกมีความเป็นไปได้อีกด้วย
(รายงานโดย Lisa Schlein / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว)