เมื่อวันจันทร์ นายอันโตนิโอ กูเทอเรซ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ เปิดการประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลก โดยกล่าวสะท้อนข้อเรียกร้องขององค์การดังกล่าวเรื่องความมีเอกภาพของประเทศทั่วโลกเพื่อต่อสู้กับปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ และชี้ว่า โควิด-19 เป็นปัญหาท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชั่วชีวิตของเรา รวมทั้งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมีวัคซีนหรือยาชนิดใดที่สามารถใช้บำบัดโรคนี้อย่างได้ผลหรือไม่
เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติยังกล่าวย้ำเรื่องความจำเป็นของการให้ความสนับสนุนต่อองค์การอนามัยโลกที่ไม่อาจทดแทนได้ รวมทั้งการช่วยเหลือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาต่าง ๆ ด้วย
โดยนายกูเทอเรซกล่าวด้วยว่า ประเทศต่าง ๆ ตัดสินใจเลือกดำเนินการรับมือกับโรคโควิด-19 นี้แตกต่างกันไป และมีหลายประเทศที่ละเลยคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกซึ่งก็เป็นผลให้เชื้อไวรัสดังกล่าวแพร่ออกไปทั่วโลกในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้นำขององค์การโลกบอกว่า จะเป็นความคิดที่ผิดพลาดหากรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ มองว่าจะต้องตัดสินใจเลือกระหว่างการช่วยรักษาชีวิตประชาชน หรือการปกป้องเศรษฐกิจของประเทศเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
นอกจากนั้นแล้ว เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติยังเรียกร้องให้กลุ่มประเทศ G20 เร่งพิจารณามาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ ที่อาจต้องใช้เงินมากเป็นสัดส่วนถึงตัวเลขสองหลักของผลผลิตทางเศรษฐกิจของโลกโดยรวมด้วย
ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการทำงานขององค์การอนามัยโลกนั้นก็มีผู้นำของบางประเทศที่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ให้พิจารณาทบทวนโครงสร้างและการทำงานขององค์การสาธารณสุขระหว่างประเทศดังกล่าว
ผู้นำสหรัฐกล่าวหาองค์การอนามัยโลกว่า ช่วยเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนจากจีนเกี่ยวกับไวรัสนี้และเป็นผลให้ผู้คนนับแสนต้องเสียชีวิตลง และนายอเล็กซ์ เอซาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐฯ ก็ชี้ว่า องค์การอนามัยโลกมีส่วนร่วมรับผิดชอบสำหรับเรื่องนี้เช่นกัน และว่า สหรัฐฯ สนับสนุนให้มีคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบการทำงานในทุกด้านขององค์การอนามัยโลกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกได้กล่าวโต้ว่า องค์การอนามัยโลกได้เตือนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกและบ่อยครั้ง โดยขณะที่มีการประกาศว่าโควิด-19 เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลกเมื่อวันที่ 30 มกราคมนั้น มีผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวนอกประเทศจีนไม่ถึง 100 คน และขณะนั้นยังไม่มีผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีนเลย
ในส่วนของจีนเอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ประกาศระงับการให้เงินสนับสนุน 400 ล้านดอลลาร์แก่องค์การอนามัยโลก และต่อมาได้ประกาศว่าจะให้เงินสนับสนุนในระดับที่เท่ากับจีนนั้น ล่าสุด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้ประกาศจะให้เงินช่วยเหลือแก่องค์การอนามัยโลก 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสองปีต่อจากนี้ เพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
โดยเงินสนับสนุนจากจีนที่ว่านี้มีมูลค่าเท่ากับงบประมาณโดยรวมขององค์การอนามัยโลกเมื่อปีที่แล้ว และจะพอสามารถช่วยทดแทนจำนวนเงินสนับสนุนที่ถูกสหรัฐฯ ตัดทอนลงได้