คณะนักวิจัยกำลังศึกษาประสิทธิผลของอุปกรณ์แบบสวมใส่เพื่อใช้ระบุอาการเริ่มต้นของโรคต่างๆ รวมถึงโควิด-19
ขณะนี้หลายๆ คนใช้อุปกรณ์สวมใส่อย่างเช่น Fitbit หรือนาฬิกา Apple Watch เพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจและการออกกำลังกายอื่นๆ อยู่แล้ว แต่ในตอนนี้นักวิจัยกำลังศึกษาว่าเทคโนโลยีชนิดนี้จะสามารถใช้บอกสัญญานเริ่มต้นของโควิด-19 ได้หรือไม่
ทั้งนี้มีการทดสอบอุปกรณ์ดังกล่าวที่มหาวิทยาลัย West Virginia University ของสหรัฐฯ นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยรายงานเมื่อเดือนพฤษภาคมว่าอุปกรณ์นี้สามารถระบุอาการของโควิด-19 ในระยะเริ่มต้นได้ล่วงหน้าถึงสามวันก่อนที่ผู้ป่วยจะรู้ตัว
นักวิจัยทำการทดสอบอุปกรณ์ที่มีชื่อเรียกว่า Oura Ring ซึ่งมีลักษณะเป็นแหวนที่ใช้สวมใส่อยู่บนนิ้วมือและมีใช้มานานราวสองปีแล้ว แหวนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ตรวจวัดสมรรถภาพของร่างกายขณะออกกำลังกาย ตลอดจนคุณภาพของการนอน และสุขภาพของหัวใจ โดยแหวนดังกล่าวจะส่งข้อมูลที่รวบรวมได้ไปยังแอพซึ่งจะประเมินการทำกิจกรรมต่างๆ ของผู้ใช้ แอพดังกล่าวใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ในการทำนายอาการเริ่มต้นของโควิด-19 เช่นอุณหภูมิร่างกายที่สูง และการมีปัญหาในการหายใจ
นักวิจัยกล่าวว่าการทดสอบในช่วงต้นแสดงให้เห็นว่าระบบนี้สามารถคาดการณ์อาการเริ่มต้นที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ได้ถึงสามวันล่วงหน้า และมีอัตราความสำเร็จมากกว่า 90%
Ali Rezai หัวหน้าสถาบัน Rockefeller Neuroscience Institute เชื่อว่าระบบนี้จะสามารถช่วยปกป้องเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพและผู้ปฏิบัติงานฉุกเฉินในการรับมือกับโควิด-19 และโรคที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วชนิดอื่นๆ ได้
เมื่อเร็วๆ นี้สมาคมบาสเกตบอล NBA ตัดสินใจสั่งซื้อแหวน Oura Ring ให้กับผู้เล่นเพื่อที่จะได้ตรวจพบอาการของโควิด-19 โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
โครงการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งมีขึ้นที่สถาบันวิจัย Scripps ในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย การศึกษาที่ใช้ชื่อว่า DETECT ตรวจสอบข้อมูลจากอุปกรณ์ที่สวมใส่โดยอาสาสมัครกว่า 30,000 คนเพื่อที่จะดูว่าอุปกรณ์สวมใส่ดังกล่าวสามารถทำนายอาการเริ่มต้นของโควิด-19 ในหมู่คนที่ยังไม่แสดงอาการได้หรือไม่
นักวิจัยจากสถาบัน Scripps ได้แสดงถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีประเภทสวมใส่นี้เพื่อทำนายอาการของผู้ติดเชื้อไวรัส การค้นพบดังกล่าวตีพิมพ์อยู่ในวารสาร The Lancet ของอังกฤษเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ข้อได้เปรียบสำคัญของการใช้อุปกรณ์แบบสวมใส่เพื่อช่วยสอดส่องอาการล่วงหน้าก็คือ อุปกรณ์ที่ว่านี้จะวัดอัตราการเต้นของหัวใจเวลานอน เพราะการเต้นของหัวใจมักไม่เปลี่ยนแปลงก่อนการติดเชื้อไวรัส แต่นักวิจัยได้พบว่าอัตราการเต้นของหัวใจของผู้ใช้บางรายเริ่มเปลี่ยนไปสี่วันก่อนที่จะมีอาการไข้ ดังนั้นการเต้นของหัวใจจึงเป็นเครื่องบ่งชี้อาการล่วงหน้าที่มีประโยชน์รวมทั้งสามารถวัดได้ง่ายและแม่นยำด้วยการใช้อุปกรณ์แบบสวมใส่โดยทั่วไปด้วย
Jennifer Radin หัวหน้านักวิจัยที่สถาบัน Scripps กล่าวกับสำนักข่าว AFP ว่าผลของการศึกษาทั้งสองชิ้นชี้ให้เห็นว่าอุปกรณ์ที่ว่านี้มีศักยภาพในการระบุผู้ที่ติดเชื้อแต่ยังไม่มีอาการแสดงออกมา Jennifer Radin กล่าวด้วยว่าเนื่องจาก 40% ของผู้ป่วยโควิดไม่มีไข้ ดังนั้นอุปกรณ์นี้จะเป็นสิ่งที่สามารถใช้ในการคัดกรองผู้ติดเชื้อได้ดีกว่าการวัดอุณหภูมิ
นักวิจัยจากสถาบัน Scripps หวังว่าจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลจากอุปกรณ์สวมใส่มีความน่าเชื่อถือและสามารถนำมาใช้อย่างได้ผลมากกว่าการวัดอุณหภูมิ
ส่วนดร. Eric Topol ผู้อำนวยการสถาบัน Scripps บอกกับ AFP ว่าแนวคิดในเรื่องการใช้อุปกรณ์สวมใส่นั้นเป็นเรื่องที่น่าจะให้ความหวัง เพราะชาวอเมริกันมากกว่า 100 ล้านคนก็ใช้นาฬิกาสมาร์ตวอทช์หรืออุปกรณ์ตรวจวัดสมรรถภาพร่างกายอื่นๆ กันอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามแม้ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะสามารถให้ข้อมูลที่สำคัญแก่นักวิจัยได้ แต่ดร.Topol กล่าวว่าการที่จะได้รับข้อสรุปที่ดีนั้นจะต้องอาศัยคนจำนวนมากที่เข้าร่วมในการศึกษา
