สหรัฐฯ ตั้งข้อหาขบวนการเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่ล่อลวงและบังคับให้หญิงไทยนับร้อยชีวิตให้ค้าประเวณี นับเป็นคดี “ทาสทางเพศข้ามชาติ” ที่มีมูลค่ามหาศาล
หนังสือพิมพ์ 'นิวยอร์กไทมส์' เปิดเผยเอกสารสำนวนฟ้องคดีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (25) ที่สำนักงานอัยการรัฐมินนิโซต้า ที่เมืองมินนิอาโพลิส ของสหรัฐฯ สั่งฟ้องจำเลย 21 ราย โดยเป็นคนไทย 10 คน และชาวอเมริกันอีก 11 คน ในข้อหาร่วมกันลักลอบค้าประเวณี สมคบคิดตั้งขบวนการขายบริการทางเพศ ใช้กำลังหรือบีบบังคับให้ขายบริการ และสมคบคิดฟอกเงิน ทำให้มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้เพิ่มขึ้นเป็น 38 คน
ถือเป็นคดีการค้าประเวณีครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ ด้วยมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
รายละเอียดตอนหนึ่งในสำนวนฟ้อง ระบุว่า ผู้ต้องหา 21 รายนี้ มีทั้งผู้ที่หลอกผู้หญิงให้เข้ามาค้าประเวณี บางรายเป็นผู้จัดหาและดูแลสถานที่ค้าประเวณีในแต่ละรัฐทั่วอเมริกา ส่วนอีกกลุ่มเป็นฝ่ายจัดหาแหล่งฟอกเงิน รวมทั้งผู้ที่เป็นธุระจัดการเรื่องการเดินทางระหว่างรัฐต่างๆ
ขบวนการนี้เริ่มต้นมาเมื่อ 8 ปีก่อน โดยคาดว่ามีหญิงสาวจากประเทศไทยนับร้อยชีวิตที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนมากมาจากครอบครัวที่ยากจน จากบ้านเกิดมาเพราะถูกหลอกว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้นเมื่อไปทำงานในอเมริกา
ทางขบวนการจะจัดทำวีซ่าปลอมให้เข้าประเทศ ก่อนจะพาพวกเธอไปค้าประเวณีในหลายรัฐทั่วอเมริกา เพื่อชดใช้หนี้ผูกมัดที่สูงเกินความเป็นจริง ซึ่งมีตั้งแต่ค่าใช้จ่ายที่พาพวกเธอมา ไปจนถึงค่าศัลยกรรมเพื่อเรียกลูกค้าในการขายบริการทางเพศ
บางรายเป็นหนี้มากถึง 6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2 ล้าน 1 แสนบาท
'นิวยอร์กไทมส์' ยังอ้างข้อมูลจากหน่วยบังคับใช้กฏหมายของมินิโซต้าด้วยว่า เหยื่อจะถูกขังอยู่ในอพาร์ตเมนต์ โรงแรม บ้านพัก และสถานอาบน้ำนวด ที่กลายเป็นซ่องโสเภณี ในหลายเมืองทั่วอเมริกา เช่น เมืองออสติน รัฐเท็กซัส นครชิคาโก้ นครฮุสตัน นครซานดิเอโก นครดัลลัสและนครลอส แองเจลีส
โดยส่วนใหญ่ถูกบังคับให้ขายบริการทั้งวันและทุกวันเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด หรือข้อผูกมัดที่ไม่มีวันปลดเปลื้องดังกล่าว
(เรียบเรียงรายงานจาก New York Times / AP)
