นโยบายด้านตรวจคนเข้าเมืองของ รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เพิ่มความเข้มงวดต่อผู้ที่อาศัยอย่างผิดกฎหมายในอเมริกามากขึ้น สร้างความระส่ำระสายในชุมชนชาวต่างด้าวทั่วอเมริกา รวมไปถึงชาวชุมชนไทยทั่วอเมริกา ที่พบความกลัวและความกังวลสะท้อนผ่านมุมมองของทนายด้านกฎหมายคนเข้าเมืองที่มีคำถามและข้อสงสัยมาขอคำปรึกษาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
‘จิ๋ง เอี่ยวพานทอง’ ทนายความด้านกฎหมายคนเข้าเมือง เชื้อสายไทย ในรัฐเวอร์จิเนีย ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอ ไทย ว่า หลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไป จำนวนของการรับการปรึกษาเรื่องกฎหมายคนเข้าเมืองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในส่วนของ กลุ่มคนต่างด้าวทั่วไป และกลุ่มคนไทยที่มีความวิตกกังวลและกลัวผลกระทบจากนโยบายการของรัฐบาล ‘ทรัมป์’ ที่ความเข้มงวดมากขึ้น
นักกฎหมายหญิง จากรัฐเวอร์จิเนีย บอกว่า ในฐานะทนายความด้านกฎหมายคนเข้าเมืองที่มีประสบการณ์การว่าความมามากกว่า 14 ปี ยอมรับว่า กำลังเผชิญกับมาตรการและแนวทางบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจเข้าเมืองสหรัฐฯ ที่เข้มงวดที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะมีหลายกรณีที่ปกติทางอัยการจะยอมปิดคดีในชั้นศาล แต่ในขณะนี้ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลกลางให้สู้คดีในทุกคดีเกี่ยวกับการตรวจคนเข้าเมืองอย่างถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็ตาม
‘จิ๋ง’ ยอมรับว่า การบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ของเจ้าหน้าที่รัฐทำให้ต้องมีการประเมินท่าทีและแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ใหม่ทั้งหมด เพราะรัฐบาลกลางสหรัฐฯได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกนายมีอำนาจจับกุมผู้ต้องหาที่ไม่มีสถานะที่ถูกต้องตามกฎหมายและเนรเทศออกจากสหรัฐได้ทันทีโดยไม่ต้องส่งฟ้องศาลเหมือนที่ผ่านมา
ทนายความด้านกฎหมายคนเข้าเมืองบอกด้วยว่า กระแสความกังวลที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ในช่วงที่ผ่านมามีข่าวลือเกี่ยวกับการมาตรการของเจ้าหน้าที่ส่งต่อทางสื่อสังคมออนไลน์ของชาวไทยในอเมริกาอย่างแพร่หลายทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง จนทำให้ส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตและธุรกิจของชาวไทยโดยใช่เหตุ จึงอยากเรียกร้องให้ชาวไทยใช้วิจารณญาณในการรับฟังข่าวสารออนไลน์ให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เร่งหาข้อมูลหรือความรู้ด้านกฎหมายคนเข้าเมืองที่ถูกต้อง
ซึ่งล่าสุด คุณจิ๋ง เอี่ยวพานทอง ได้รับเชิญจากสำนักงานพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตไทยที่กรุงวอชิงตัน และชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารไทย วอชิงตัน ดีซี ให้จัดการบรรยายและให้ข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายคนเข้าเมืองสหรัฐฯ แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา (6 มี.ค.) เพื่อสร้างเพื่อมีส่วนสร้างความเข้าใจและวางแนวทางปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมเพื่อรับมือกับนโยบายที่เข้มงวดด้านตรวจคนเข้าเมืองที่มากขึ้น