ศาลสหรัฐฯ พิพากษาจำคุกหญิงไทย 30 เดือน หลังถูกจับในคดีฉ้อโกงหลอกซื้อขายกระเป๋าแบรนด์ดัง 500 กว่าใบ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังสั่งปรับและชดใช้ค่าเสียหายกว่า 28 ล้านบาท พร้อมเตรียมถูกเนรเทศหลังพ้นโทษ
สื่อมวลชนท้องถิ่นในสหรัฐฯ รายงานข่าวความคืบหน้า คดีที่นางสาวแพรพิชชา สมาตสรบุศย์ (Praepitcha Smatsorabudh) หญิงไทย อายุ 41 ปี ตกเป็นจำเลยคดีฉ้อโกงผ่านการทำธุรกรรมออนไลน์ หลังถูกเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ จับเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
สถานีโทรทัศน์ NBC ในกรุงวอชิงตัน ให้ความสนใจรายงานข่าว ระบุว่าศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เขตตะวันออก รัฐเวอร์จิเนีย เมืองอเล็กซานเดรีย ชานกรุงวอชิงตัน มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2559 ตัดสินให้จำคุก นางสาวแพรพิชชา จำเลยชาวไทย เป็นเวลา 30 เดือน และมีสั่งคุมประพฤติอีก 3 ปี หลังจากนั้น
พร้อมทั้งสั่งปรับราว 400,000 ดอลลาห์ หรือประมาณ 14 ล้านบาท และชดใช้่ค่าเสียหายในจำนวนเดียวกัน กับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในคดีฉ้อโกง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นที่ศาลสั่งให้ชดใช้ราวๆ 800,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 28 ล้านบาท
รายงานบันทึกคำให้การในชั้นศาลระบุว่า นางสาวแพรพิชชาให้การรับสารภาพในพฤติกรรมการกระทำผิด ด้วยการวางแผนสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมของแท้ ราคาสูงจากร้านค้าออนไลน์ของห้างสรรพสินค้าในสหรัฐฯ ก่อนที่จะนำกระเป๋าของปลอมที่ผลิตในจีนและฮ่องกง ไปคืนที่แผนกรับคืนสินค้ากว่า 60 แห่งในรัฐต่างๆ อย่างน้อย 12 รัฐทั่วอเมริกา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับผิด ก่อนจะนำสินค้าของจริงไปโพสต์ขายออนไลน์
โดยประเมินความเสียหายกว่า 4 แสนเหรียญสหรัฐฯ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า ที เจ แม็กซ์ ซึงเป็นผู้เสียหายรายใหญ่
หลังจากตรวจสอบพบกระเป๋าปลอมที่จำเลยนำไปคืนมากกว่า 226 ใบ โดยได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกระเป๋าแบรนด์เนมหลายยี่ห้อ ที่ขึ้นให้การว่ากระเป๋าที่เธอส่งคืนนั้นเป็นของปลอม
ขณะที่รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ อ้างอิงบันทึกคำให้การในชั้นศาลว่า นางนีน่า กินส์เบิร์ก ทนายความของนางสาวแพรพิชชา ได้ขึ้นแถลงแก้ต่างต่อศาลว่า เหตุที่นางสาวแพรพิชชาทำลงไป เป็นเพราะได้รับผลกระทบทางจิตใจจากการถูกผู้ปกครองทารุณร่างกายและจิตใจมาตั้งแต่เด็ก เมื่อครั้งยังอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่เพราะความโลภหรือต้องการฉ้อโกง
ด้านนางสาวแพรพิชชา นอกจากจะกล่าวรับสารภาพแล้ว เธอยังได้กล่าวขอโทษต่อการกระทำที่น่าละอาย ที่เธอยอมรับว่าเป็นความผิด และสมควรได้รับการถูกลงโทษในเรือนจำ
นอกจากนี้จำเลยยังได้ทำความตกลงที่จะชำระค่าชดใช้ราว 400,000 ดอลลาร์ หลังจากได้รับการปล่อยตัว และยอมรับการถูกเนรเทศส่งตัวกลับประเทศไทย หลังได้รับโทษ
น.ส.แพรพิชชา สมาตสรบุศย์ มีอาชีพเสริมเป็นครูในโรงเรียนเตรียมอนุบาลแห่งหนึ่งในเขตฟอร์ตวอชิงตัน ของรัฐแมรีแลนด์ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ติดตามพฤติกรรมและล่อซื้อ จนสามารถบุกเข้าค้นห้องพักของเธอ ในย่านอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย และตรวจยึดของกลางเป็นกระเป๋ามากถึง 527 ใบ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา