ศาลสูงสหรัฐฯ พิพากษาให้คดีที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวสิทธิ์ในการทำแท้งเป็นผู้ชนะคดีในรัฐหลุยเซียนา ซึ่งเป็นรัฐที่พยายามผลักดันกฎหมายจำกัดสิทธิ์ดังกล่าว
ในการพิพากษาของศาลสูงครั้งนี้ หัวหน้าคณะผู้พิพากษา จอห์น โรเบิร์ต ลงมติร่วมกับผู้พิพากษาหัวเสรีนิยม เห็นด้วยกับคำพิพากษาให้ยกเลิกกฎหมายที่จำกัดสิทธิ์ในการทำแท้ง ด้วยการบังคับให้ผู้ที่ต้องการเข้าสู่กระบวนการดังกล่าว ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์และทำการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น
โฆษกทำเนียบขาว เคลีย์ แมคเอนานีย์ ให้ความเห็นว่า คำตัดสินล่าสุดของศาลสูงนี้ ทำให้ความสำคัญของสุขภาพของผู้เป็นแม่และเด็กที่ยังไม่เกิดมาเป็นเรื่องด้อยค่าลง พร้อมระบุว่า ศาลสูงสหรัฐฯ ไม่ควรเข้าไปแทรกแซงการทำงานของผู้ว่าการรัฐและผู้แทนสภารัฐในการดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ์การทำแท้ง
อย่างไรก็ตาม คำตัดสินนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิ์การทำแท้ง และเป็นการพ่ายแพ้ครั้งหนึ่งของผู้ที่ต่อต้านเสรีภาพในการทำแท้งในสหรัฐฯ
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขประเมินว่า มีการทำแท้งกว่า 800,000 ครั้งในสหรัฐฯ ในแต่ละปี ในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าต่ำกว่าสถิติระหว่างปี ค.ศ. 1978 และ ปี ค.ศ. 1997 ซึ่งอยู่ที่กว่า 1 ล้านครั้งพอสมควร