หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ปิดทำการเข้าสู่วันที่ 21 แล้วในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นการปิดทำการนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน เท่ากับในยุคของประธานาธิบดีบิล คลินตัน ที่ปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ นาน 21 วันเช่นกัน
การปิดทำการครั้งนี้ ส่งผลให้ลูกจ้างของรัฐบาลอเมริกันราว 800,000 คน ไม่ได้รับเงินเดือนงวดแรกของปีนี้ ซึ่งต้องจ่ายในวันที่ 11 มกราคม
เมื่อวานนี้ ลูกจ้างของรัฐบาลสหรัฐฯ หลายร้อยคน เดินขบวนในกรุงวอชิงตันบริเวณหน้าทำเนียบขาว เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดทำการอีกครั้ง
การปิดทำการหน่าวยงานรัฐบาลครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานในกระทรวงต่างๆ 9 กระทรวง จากทั้งหมด 15 กระทรวงของสหรัฐฯ รวมถึงกระทรวงสำคัญต่อความมั่นคง อย่างกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้าราชการราว 420,000 ที่ยังต้องเข้ามาทำงานตามปกติแม้จะยังไม่ได้รับเงินเดือน รวมถึง เจ้าหน้าที่ FBI และ TSA ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยตามสนามบินต่างๆ ด้วย
ถึงกระนั้น สนามบินนานาชาตินครไมอามี รัฐฟลอริดา ประกาศในวันศุกร์ว่า จะปิดอาคารผู้โดยสารบางส่วนของสนามบินเร็วกว่าเวลาปกติในช่วง 3 วันข้างหน้า คือ วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันจันทร์ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ TSA บางส่วนที่ไม่ได้มาทำงานเนื่องจากการปิดทำการรัฐบาลในขณะนี้
เมื่อคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐฯ วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายที่จะช่วยรับรองว่า ลูกจ้างของรัฐบาลจะได้รับเงินเดือนย้อนหลังเมื่อรัฐบาลเริ่มเปิดทำการอีกครั้ง
ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกลับจากการเดินทางเยือนรัฐเท็กซัสเมื่อวานนี้ ได้จัดประชุมที่ทำเนียบขาวในวันนี้ร่วมกับบรรดาผู้นำส่วนท้องถิ่นและระดับรัฐ และยังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก
ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่า ผู้นำสหรัฐฯ อาจประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อนำเงินจากงบประมาณทางการทหารส่วนอื่นๆ ไปใช้ในการสร้างกำแพงโดยที่ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาสหรัฐฯ