ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณในวันพฤหัสบดีว่า ตนอาจจะประกาศภาวะฉุกเฉินเร็วๆ นี้ เพื่อนำงบประมาณการก่อสร้างทางทหาร มาใช้ในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา
ปธน.ทรัมป์ เดินทางถึงเมืองแม็คอัลเลน รัฐเท็กซัส ในวันพฤหัสบดี เพื่อตรวจสอบมาตรการรักษาความปอดภัยตามแนวพรมแดนในการสกัดกั้นผู้อพยพจากประเทศแถบอเมริกากลาง
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ตนอาจประกาศภาวะฉุกเฉินหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องงบประมาณสร้างกำแพงกับผู้บรรดานำพรรคเดโมแครตในรัฐสภาได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดทำการเข้าสู่วันที่ 20 แล้ว
ปธน.ทรัมป์ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า ตนมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะประกาศภาวะฉุกเฉิน และมีโอกาสสูงที่จะทำเช่นนั้นหากการเจรจาไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากอีกฝ่ายหนึ่งไม่เห็นความสำคัญของการปกป้องพรมแดน และว่า มีงบประมาณทางทหารมากมายที่สามารถจัดสรรไปสร้างกำแพงได้
แต่คาดว่าทางพรรคเดโมแครตและกลุ่มการเมืองอื่นๆ จะใช้การต้อสู้ทางกฎหมายเพื่อท้าทายการประกาศภาวะฉุกเฉินของทรัมป์ในครั้งนี้
เมื่อวานนี้ ปธน.ทรัมป์ ได้เดินออกจากการหารือกับผู้นำพรรคเดโมแครต ระหว่างการประชุมเรื่องการหาทางออกเกี่ยวกับการปิดทำการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หลังจากที่ผู้นำพรรคเดโมแครตปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์อีกครั้ง
ต่อมา ปธน.ทรัมป์ ระบุในทวีตว่า เมื่อตนกล่าวถึงการสร้างกำแพงหรือที่กั้นเหล็กตามแนวพรมแดน แลกกับการเปิดทำการรัฐบาล ทาง ส.ส.แนนซี่ เพโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ตอบว่า "ไม่" ซึ่งตนก็ตอบไปว่า "ลาก่อน" เพราะไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว
ซึ่งทางผู้นำพรรคเดโมแครตในรัฐสภา กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า เป็นอีกครั้งที่ผู้นำสหรัฐฯ แสดงถึงการควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จากการเดินหนีจากการเจรจาครั้งนี้
และวันนี้ที่กรุงวอชิงตัน ลูกจ้างของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หลายร้อยคน ที่ไม่ได้เข้าทำงานเพราะการปิดทำการดังกล่าว เดินขบวนหน้าทำเนียบขาวเพื่อประท้วงประธานาธิบดีทรัมป์
โดยรวมแล้ว มีลูกจ้างรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดทำการรัฐบาลครั้งนี้ราว 800,000 คน
ด้านประธานคณะผู้ว่าการระบบธนาคาร นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวในวันนี้ว่า หากการปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ยืดเยื้อต่อไป จะส่งผลเสียรุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ในการเดินทางเยือนรัฐเท็กซัสครั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์จะเดินทางไปยังจุดตรวจผ่านแดนแห่งหนึ่งในบริเวณที่เรียกว่า Rio Grande Valley ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้ลักลอบข้ามพรมแดนเข้ามาในสหรัฐฯ มากที่สุดบริเวณหนึ่ง
ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชนในรัฐเท็กซัส ได้รวมตัวประท้วงที่สนามแม็คอัลเลน เพื่อต่อต้านการสร้างกำแพงและนโยบายกีดกันผู้อพยพ ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ เดินทางไปถึง