ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และบรรดาผู้นำในรัฐสภาสหรัฐฯ พบหารืออีกครั้งในวันพุธ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถตกลงกันได้ในเรื่องการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก ตามที่ผู้นำสหรัฐฯ ต้องการ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ต้องปิดทำการมาแล้ว 19 วัน
ปธน.ทรัมป์ ร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ที่รัฐสภาสหรัฐฯ ในวันนี้ จากนั้นได้ร่วมประชุมกับผู้นำพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตที่ทำเนียบขาว
โดยรายงานข่าวระบุว่า ปธน.ทรัมป์ ได้เดินออกจากการหารือกับผู้นำพรรคเดโมแครต หลังจากที่ผู้นำพรรคเดโมแครตปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์อีกครั้ง
ต่อมา ปธน.ทรัมป์ ระบุในทวีตว่า เมื่อตนกล่าวถึงการสร้างกำแพงหรือที่กั้นเหล็กตามแนวพรมแดน แลกกับการเปิดทำการรัฐบาล ทาง ส.ส.แนนซี่ เพโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ตอบว่า "ไม่" ซึ่งตนก็ตอบไปว่า "ลาก่อน" เพราะไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว
ซึ่งทางผู้นำพรรคเดโมแครตในรัฐสภา กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า เป็นอีกครั้งที่ผู้นำสหรัฐฯ แสดงถึงการควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จากการเดินหนีจากการเจรจาครั้งนี้
เมื่อวานนี้ ปธน.ทรัมป์ กล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์ต่อประชาชนอเมริกันจากห้องทำงานในทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ระบุถึงความสำคัญของการสร้างกำแพงกั้นชายแดนทางใต้
อีกไม่กี่นาทีต่อมา ส.ส.แนนซี่ เพโลซี่ และ ส.ว.ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ปราศรัยร่วมกันว่า กำแพงนั้นไม่ใช่สิ่งจำเป็น พร้อมทั้งขอให้ผู้นำสหรัฐฯ เปิดการทำงานของหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนที่ปิดมาตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม รวม 19 วัน ถือเป็นการปิดการทำงานของรัฐบาลที่ยาวนานที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อลูกจ้างรัฐบาลอเมริกันราว 8 แสนคน
ปธน.ทรัมป์ กล่าวระหว่างการปราศรัยว่า ตนอาจจะประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อสร้างกำแพงโดยไม่ต้องผ่านการรับรองของรัฐสภาสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ พรรคเดโมแครตเสนองบประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามแนวพรมแดน แต่ไม่รวมค่าก่อสร้างกำแพงมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์ที่ ปธน.ทรัมป์ ต้องการ ทำให้ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ยอมรับร่างงบประมาณดังกล่าว
ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า ขณะนี้ขึ้นอยู่กับพรรคเดโมแครตแล้วว่าผ่านร่างงบประมาณที่รวมค่าสร้างกำแพงไว้หรือไม่ หรือจะยอมให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องปิดทำการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทั้ง ส.ส.เพโลซี และ ส.ว.ชูเมอร์ โต้ว่า ที่ผ่านมารัฐสภาได้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณไปแล้วหลายฉบับ ซึ่งจะมีผลให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถเปิดทำการได้อีกครั้ง แต่ทรัมป์ปฏิเสธที่จะลงนามในร่างงบประมาณเหล่านั้น เพียงเพราะต้องการสร้างกำแพง
ในการกล่าวปราศรัยเมื่อวานนี้ ปธน.ทรัมป์ ยังระบุถึงความสำคัญของการสร้างกำแพงเพื่อป้องกันความรุนแรงที่เกิดจากกลุ่มคนผิดกฎหมายที่ลอบเข้ามาในสหรัฐฯ รวมทั้งยาเสพติดที่มาจากเม็กซิโก
ปธน.ทรัมป์ ระบุว่า มีชาวอเมริกันหลายพันคนที่ถูกสังหารโดยคนลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และจะมีอีกหลายพันชีวิตที่ต้องสูญเสียไปหากไม่มีการสร้างกำแพง ซึ่งถือเป็นวิกฤติทางมนุษยธรรมและจิตวิญญาณ
อย่างไรก็ตาม รายงานของสำนักงานควบคุมยาเสพติดของสหรัฐฯ เมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ชี้ว่า ยาเสพติดที่ข้ามพรมแดนเข้ามาในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ผ่านมาทางจุดผ่านแดนปกติ โดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการขนส่ง ซึ่งการสร้างกำแพงจะไม่สามารถช่วยยับย้้งการขนส่งยาเสพติดด้วยวิธีนี้ได้