เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และยูเครนระบุว่า ความพยายามของรัสเซียในการทำสงครามข่าวสารนั้น ไม่ได้ดีไปกว่าความพยายามของรัสเซียในการทำสงครามจริงกับยูเครนเท่าใดนัก
เจ้าหน้าที่กลาโหมอาวุโสของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ปฏิบัติการข่าวสารของรัสเซียไม่ได้รับความเชื่อถือจากภายนอกรัสเซียเท่าใดนัก เช่น ข้อกล่าวหาต่างๆ ที่มีต่อยูเครน
แม้จะมีการประเมินดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่รัสเซียและสื่อพันธมิตรของรัสเซียยังคงเผยแพร่ข้อกล่าวหาต่อยูเครนและประเทศที่สนับสนุนยูเครนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ โทรทัศน์ และวิทยุ ที่ยังไม่ถูกปิดกั้น
ข้อกล่าวหาล่าสุดของรัสเซียที่เหมือนจะถูกเผยแพร่มากที่สุดคือ ข้อกล่าวหาที่ว่า สหรัฐฯ ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยอาวุธชีวภาพในยูเครน
ผลการสำรวจโดยกลุ่มติดตามข้อมูลเท็จด้านความมั่นคงออนไลน์ Alliance for Securing Democracy ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียและสื่อทางการของรัสเซียทวีตคำว่า “ชีวภาพ” เกือบ 600 ครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อวันพฤหัสบดี กระทรวงกลาโหมรัสเซียพยายามนำเสนอประเด็นดังกล่าว โดยเผยแพร่ข้อกล่าวหานี้ในแอปพลิเคชั่นเทเลแกรมภาคภาษาอังกฤษของตน
โพสต์หนึ่งของทางกระทรวงระบุว่า “ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันนิวเคลียร์ (อาวุธ)ชีวภาพและเคมีของรัสเซีย ศึกษาเอกสารต้นฉบับที่เปิดเผยถึงรายละเอียดของโครงการลับโดยสหรัฐฯ ในยูเครน เพื่อศึกษาการเผยแพร่โรคไปยังมนุษย์โดยค้างคาวจากห้องปฏิบัติการในเมืองคาร์คอฟ”
ช่องทางเทเลแกรมของรัสเซียยังเผยแพร่คำกล่าวอ้างที่ว่า โรงละครในเมืองมาริอูโพลที่เป็นที่หลบภัยของประชาชน ไม่ได้ถูกโจมตีทางอากาศโดยรัสเซียตามที่สภาเมืองมาริอูโพลระบุ แต่ถูก “กองพันอาซอฟ” โจมตี โดยกองกำลังดังกล่าวเป็นกลุ่มสนับสนุนยูเครนที่นักวิเคราะห์บุว่า มีอุดมการณ์แบบลัทธินีโอนาซี
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุทางเทเลแกรมว่า “ผู้ลี้ภัยรายหนึ่งจากเมืองมาริอูโพลกล่าวว่า กองกำลังจากกองพันอาซอฟวางระเบิดโรงละครที่มีพลเรือนที่ถูกใช้เป็น ‘โล่มนุษย์’”
ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น ข้อกล่าวหาเรื่องอาวุธชีวภาพและการโจมตีโรงละคร ก็ถูกกล่าวโดยรัฐบาลรัสเซีย บัญชีทวิตเตอร์และเว็บไซต์ของสื่อรัสเซียในหลายภาคภาษา
เจ้าหน้าที่อาวุโสกลาโหมของสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดอื่นๆ จากทางฝั่งรัสเซียต่อเหตุการณ์นี้ โดยระบุว่า ยังไม่สามารถยืนยันรายละเอียดใดๆ ได้
อย่างไรก็ตาม ทางสหรัฐฯ ยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัสเซียที่ระบุว่า สหรัฐฯ พัฒนาอาวุธชีวภาพในยูเครน โดยจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าว “ไร้สาระมาก”
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวเช่นกัน โดยระบุว่า การที่รัสเซียเผยแพร่ข้อกล่าวหาดังกล่าวซ้ำๆ อาจสื่อได้ว่า รัสเซียวางแผนโจมตีทางเคมีหรือชีวภาพ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการของสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ กล่าวกับคณะกรรมการของวุฒิสภาสหรัฐฯ ว่า รัสเซียเคยใช้อาวุธดังกล่าวต่อประชาชนของตนแล้ว และเคยสนับสนุนให้มีการใช้อาวุธนี้ในซีเรียและประเทศอื่นๆ ทำให้ซีไอเอให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลว่า แม้รัสเซียไม่สามารถโน้มน้าวผู้คนในประเทศตะวันตกได้ แต่ก็ยังมีส่วนน้อยที่เห็นด้วยกับรัสเซีย และเผยแพร่ความเห็นทางพอดแคสต์หรือแม้แต่เครือข่าวโทรทัศน์เคเบิลบางแห่งในสหรัฐฯ
พลเอกพอล นาคาโซน ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เห็นว่า บทบาทของหน่วยงานข่าวกรองอเมริกันในการคัดแยกข่าวเท็จในสงครามข่าวสารนี้ โดดเด่นที่สุดนับตั้งแต่เขารับราชการทหารมา 35 ปี
ในขณะเดียวกัน ฮีออร์ฮี ไทไค ที่ปรึกษาโฆษกกระทรวงต่างประเทศยูเครน ระบุว่า ยูเครนกำลังชนะสงครามข้อมูลครั้งนี้อย่างมาก และการต่อสู้ข้อมูลเท็จต้องใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุกด้วย
เจ้าหน้าที่กลาโหมอาวุโสของสหรัฐฯ ชื่นชมความพยายามของยูเครนเช่นกัน โดยระบุว่า ยูเครนสามารถรับมือกับข่าวสารได้เป็นอย่างดี โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์สื่อสารจนได้ผลที่ดีเยี่ยม ทำให้รัสเซียไม่ประสบความสำเร็จในการทำข้อมูลข่าวสารเท่าใดนัก