เมื่อวันศุกร์ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ปรากฎตัวที่งานชุมนุมที่สนามกีฬาลุจนีกีในกรุงมอสโก พร้อมกล่าวชื่นชมกองกำลังที่สู้รบในยูเครนเข้าสู่สัปดาห์ที่สี่ ท่ามกลางการบาดเจ็บสูญเสียของกองทัพรัสเซียที่มากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตามรายงานของเอพี
ปธน. ปูติน ปรากฎตัวในชุดคอเต่าสีขาวและเสื้อกันหนาวสีน้ำเงิน กล่าวกับฝูงชนที่โบกธงชาติรัสเซียเป็นเวลาห้านาทีว่า กองกำลังรัสเซียช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน และรัสเซียไม่มีความสมานฉันท์เช่นนี้มาเป็นเวลานานแล้ว
ผู้นำรัสเซียกล่าวต่อกองกำลังรัสเซียโดยอ้างคัมภีร์ไบเบิลที่ระบุว่า “ไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่กว่าการมอบจิตวิญญาณให้เพื่อน” พร้อมระบุว่า มีศัตรูของเขาในยูเครนที่เป็นพวกลัทธินีโอนาซี และย้ำว่าการกระทำของเขาจำเป็นในการป้องกันไม่ให้เกิด “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างที่ผู้นำทั่วโลกไม่ยอมรับ
เอพีระบุว่า การอ้างประโยคจากคัมภีร์ไบเบิลและอดีตพลเรือเอกของรัสเซียในยุคศตวรรษที่ 18 สะท้อนให้เห็นถึงการที่ ปธน. ปูติน ให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์และศาสนาในฐานะศูนย์รวมจิตใจของรัสเซียในยุคหลังโซเวียต
นอกจากนั้น ประธานาธิบดีปูตินยังคงกล่าวว่า การบุกยูเครนมีเหตุผลเพื่อป้องปันไม่ให้เกิด “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และว่าฝ่ายตรงข้ามตนคือพวก “นาซีใหม่” ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ผู้นำทั่วโลกระบุว่าเป็นเท็จ
ผู้เข้าร่วมงานบางส่วนรวมทั้งพิธีกรในงาน สวมเสื้อพร้อมสัญลักษณ์ตัวอักษร “Z” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทีพบได้บนรถถังและยานพาหนะกองทัพของรัสเซียในยูเครน และเป็นสัญลักษณ์ที่ผู้สนับสนุนสงครามยูเครนนิยมใช้
ปธน. ปูตินปรากฎตัวในงานนี้หลังจากที่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เขามักหารือกับผู้นำโลกและเจ้าหน้าที่รัฐบาลรัสเซียบนโต๊ะยาวหรือประชุมทางออนไลน์
แม้การชุมนุมครั้งนี้จะมีวัตถุประสงค์อย่างเป็นทางการเพื่อฉลองครบรอบแปดปี การผนวกแคว้นไครเมียมาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย แต่การจัดงานท่ามกลางการประท้วงต่อต้านสงครามทั่วรัสเซียนี้ ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า การชุมนุมครั้งนี้ต้องการแสดงออกถึงความรักชาติ โดยมีการจัดฉากบางส่วน
บัญชีเทเลแกรมหลายบัญชีรายงานว่า นักศึกษาและพนักงานของสถาบันรัฐจากภูมิภาคต่างๆ ถูกผู้บังคับบัญชาสั่งให้เข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เอพีไม่สามารถยืนยันรายงานดังกล่าวได้
ตำรวจในกรุงมอสโกระบุว่า มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200,000 คน ซึ่งในงานมีการเปิดเพลงรักชาติ รวมถึงการแสดงเพลง “Made in the U.S.S.R.” ที่มีท่อนเปิดว่า “ยูเครนและไครเมีย เบลารุสและมอลโดวา เป็นประเทศของเราทั้งนั้น” ท่ามกลางฝูงชนที่ตะโกนคำว่า “รัสเซีย!”
ด้านเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการเจรจาทางการทูตกับยูเครนกล่าวว่าสามารถลดความเเตกต่างลงได้ โดยตัวเเทนฝ่ายยูเครนกล่าวว่าจุดยืนของตนยังคงเหมือนเดิม
สำหรับเหตุการณ์ในประเทศยูเครน ทหารรัสเซียยังคงโจมตีต่อเนื่องในหลายเมืองทั้งบริเวณกรุงเคียฟเมืองหลวง และเมืองละวิฟใกล้ชายเเดนโปแลนด์
- ที่มา: เอพี
