ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตเมื่อเช้าวันพุธ ระบุว่าเป็นโอกาสอันดีที่ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน จะทำสิ่งที่ถูกต้อง หลังจากที่ผู้นำคิมรับปากกับผู้นำจีนว่าจะลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี โดยบอกว่า เป็นการทำเพื่อประชาชนเกาหลีเหนือเองและมนุษยชาติ
ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังระบุด้วยว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน แจ้งให้ตนทราบว่าการพบปะกับผู้นำเกาหลีเหนือเป็นไปด้วยดี และนายคิม จอง อึน ก็คาดหวังว่าจะได้พบหารือกับตนเช่นกัน แต่ขณะเดียวกัน มาตรการลงโทษและความกดดันอย่างเต็มที่ต่อเกาหลีเหนือยังต้องดำเนินต่อไป
ส่วนในการทวีตอีกข้อความหนึ่ง ผู้นำสหรัฐฯ อ้างความสำเร็จจากมาตรการกดดันของตน โดยชี้ว่าเป็นเวลาหลายปีในช่วงรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดก่อนๆ ที่ทุกคนไม่เชื่อว่าสันติภาพและการลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีจะเกิดขึ้นได้จริง
สำนักข่าวซินหว่าของทางการจีน รายงานว่า ผู้นำของจีนกับเกาหลีเหนือได้ย้ำความสำคัญเรื่องการรักษาความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศทั้งสอง
โดยเฉพาะในเรื่องการลดอาวุธนิวเคลียร์นั้น ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้แจ้งต่อนายคิม จอง อึน ว่าจีนเห็นด้วยเรื่องเป้าหมายของการลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี และผู้นำเกาหลีเหนือก็ตอบว่า ตนพร้อมจะคลี่คลายปัญหาเรื่องการลดอาวุธนิวเคลียร์เช่นกัน ตราบเท่าที่เกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ตอบสนองความพยายามด้วยความตั้งใจและมิตรภาพที่ดี สร้างบรรยากาศแห่งสันติภาพ และเสถียรภาพ ในขณะที่มีการดำเนินการคืบหน้าอย่างประสานสอดคล้องกัน เพื่อให้เกิดสันติภาพในที่สุด
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ นาย Richard C. Bush ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษานโยบายเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือของสถาบัน Bookings ในกรุงวอชิงตัน เตือนว่า ควรต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ว่า คำกล่าวของนายคิม จอง อึน นั้นมีความหมายอย่างไร
เพราะจากเงื่อนไขของเกาหลีเหนือเท่าที่ผ่านมา ท่าทีและจุดยืนของเกาหลีเหนืออาจแปลได้ว่า การเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ จะต้องยุติลง รวมทั้งสหรัฐฯ จะต้องถอนทหารออกจากคาบสมุทรเกาหลี และสหรัฐฯ จะต้องเลิกการปกป้องคุ้มครองด้านนิวเคลียร์ที่ให้กับเกาหลีใต้ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ หรือเกาหลีใต้จะยอมพิจารณา
ในส่วนของเกาหลีเหนือเอง ถึงแม้สำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือ จะรายงานเรื่องการเยือนจีนของนายคิม จอง อึน ก็ตาม แต่เนื้อหาของข่าวไม่ได้เอ่ยถึงคำมั่นสัญญาเรื่องการลดอาวุธนิวเคลียร์ หรือการพบปะระดับสุดยอดกับประธานาธิบดีของเกาหลีใต้และประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นแต่อย่างใด
ส่วนในเรื่องเกี่ยวกับจีน อาจารย์ Dennis Wilder ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียศึกษา ของมหาวิทยาลัย Georgetown ชี้ว่า จีนอาจมีความกังวลว่าตนจะถูกทอดทิ้ง หากสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือบรรลุข้อตกลงใดๆ โดยไม่มีการหารือกับตน
ดังนั้นการเยือนจีนโดยนายคิม จอง อึน ครั้งนี้ จึงเป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่า จีนก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเจรจาต่อรองซึ่งจะไม่ถูกกีดกันออกไป และทั้งสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้จำต้องตระหนักในเรื่องนี้ด้วย