เมื่อวันอังคาร นายชุง อิว-ยอง (Chung Eui-yong) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งเพิ่งกลับจากการเจรจากับเกาหลีเหนือ บอกผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลกรุงเปียงยางส่งสัญญาณว่าอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีโครงการอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป หากภัยคุกคามด้านการทหารที่เกาหลีเหนือเผชิญอยู่ถูกกำจัดลง
โดยตัวแทนพิเศษของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ได้เข้าพบนายคิม จอง อึน (Kim Jong Un) ผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อต้นสัปดาห์นี้กล่าวว่า เกาหลีเหนือเปิดรับเรื่องการหารือเพื่อปรับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และเพื่อกำจัดอาวุธนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม คำเปิดเผยจากตัวแทนพิเศษของเกาหลีใต้นี้ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากเกาหลีเหนือ แต่ถ้าเป็นจริงก็จะนับเป็นการเปลี่ยนท่าทีที่สำคัญ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีเหนือกล่าวว่าตนยินดีจะเริ่มหารือกับสหรัฐฯ แต่ได้บอกปัดการตั้งเงื่อนไขล่วงหน้าใดๆ สำหรับการเจรจา
เท่าที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ยืนกรานว่า เกาหลีเหนือจะต้องให้คำมั่นว่าจะยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ก่อนที่จะมีการเจรจาใดๆ
และในตอนเช้าวันนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่านับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีการใช้ความพยายามอย่างจริงจังจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ก็แสดงความเคลือบแคลงใจเกี่ยวกับเจตนาของเกาหลีเหนือโดยเสริมว่า โลกกำลังจับตามองและรอเรื่องนี้อยู่ และว่าเรื่องนี้อาจเป็นแค่ความหวังแบบลมๆแล้งๆ แต่สหรัฐฯ ก็พร้อมที่จะทำอย่างจริงจังไม่ว่าจะเป็นอย่างไร
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธทั้งแบบพิสัยกลางและระยะไกลหลายครั้ง รวมทั้งทดลองอาวุธนิวเคลียร์สองครั้งด้วย เพื่อพัฒนาขีดความสามารถที่จะยิงขีปนาวุธข้ามทวีปโจมตีเมืองใหญ่ต่างๆ ของสหรัฐฯ
และรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการลงโทษต่างๆ เพื่อกดดันเปียงยาง นับตั้งแต่ห้ามการส่งออกถ่านหิน แร่เหล็ก สินค้าเสื้อผ้า และอาหารทะเล เป็นต้น รวมทั้งยังขู่ว่าพร้อมจะใช้กำลังทหารเพื่อกำจัดภัยคุกคามเรื่องนิวเคลียร์ถ้าจำเป็น
ในวันนี้ พลโท โรเบิร์ต แอชลีย์ (Robert Ashley) เจ้ากรมข่าวกรองทหารของสหรัฐฯ แถลงให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการกิจการทหารของวุฒิสภา แสดงความเคลือบแคลงสงสัยเกี่ยวกับเจตนาที่แท้จริงของเกาหลีเหนือ โดยกล่าวว่า Kim Jong Un ไม่ได้แสดงความสนใจที่จะยกเลิกโครงการขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของตน ทั้งยังเตือนด้วยว่า เกาหลีเหนือพร้อมที่จะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งต่อไปด้วย