อุตสาหกรรมแฟชั่นถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของมหานครนิวยอร์ค กว่า 5% ของคนทำงานในนิวยอร์คอยู่ในธุรกิจนี้ และสร้างรายได้เกือบ 18,000 ล้านดอลล่าร์ต่อปี
แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทเสื้อผ้าในนิวยอร์คต่างย้ายไปตั้งฐานการผลิตในต่างประเทศเพื่อลดต้นทุน ปัจจุบันทางนครนิวยอร์คกำลังพยายามหาทางสนับสนุนให้บริษัทแฟชั่นต่างๆ กลับมาตั้งโรงงานในมหานครแห่งนี้อีกครั้ง ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า Made in New York
นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ค Bill de Blasio จัดสรรงบประมาณ 15 ล้านดอลล่าร์เพื่อสนับสนุนให้ดีไซน์เนอร์ในนิวยอร์คออกแบบเสื้อผ้า และร่วมมือกับโรงงานสิ่งทอเพื่อตัดเย็บเสื้อผ้าออกขายในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีข้อกำหนดว่ากระบวนการทุกอย่างตั้งแต่ออกแบบจนถึงการตัดเสื้อผ้าออกมานั้น ต้องทำในนิวยอร์ค และจ้างแรงงานในท้องถิ่น
เป้าหมายของโครงการนี้นอกจากการสร้างงานแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมสิ่งทอในนิวยอร์คด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าร่วมโครงการบางคนบอกว่า อุปสรรคของการผลิตเสื้อผ้าในนิวยอร์คคือ ค่าเช่าแพง แรงงานอายุมาก และเทคโนโลยีที่ล้าสมัย ทำให้ทางนครนิวยอร์คต้องคิดหามาตรการต่างๆเพื่อช่วยผู้ประกอบการ หนึ่งในนั้นคือการสร้างเครือข่ายดิจิตัลเพื่อเชื่อมโยงนักออกแบบ ผู้ประกอบการ แรงงาน และลูกค้าเข้าด้วยกัน บวกกับผลประโยชน์จูงใจด้านภาษีและเงินอุดหนุน เพื่อผลักดันแบรนด์เสื้อผ้าที่สามารถพูดได้เต็มปากว่า Made in New York 100% ออกสู่ตลาดโลก
