นักออกแบบเสื้อผ้าอเมริกันเปิดร้านแปลงโฉมเสื้อผ้าเก่าให้เป็นแฟชั่นชิ้นใหม่

นักออกแบบแฟชั่นอเมริกันนำเสื้อผ้าใช้เเล้วไปแปลงโฉมเป็นแฟชั่นยุคใหม่เพื่อช่วยลดขยะและส่งเสริมการนำของเก่าไปหมุนเวียนใช้ใหม่

เสื้อผ้าแฟชั่นที่ขายในร้านเสื้อผ้าทั่วไปเป็นเสื้อผ้าพร้อมสวมใส่ แต่ที่ร้าน Ginger Root ไม่มีเสื้อผ้าประเภทนี้ขายให้ลูกค้า คุณชาร์ลี เฮ็ค เป็นลูกค้าประจำของร้านเพราะว่า เจ้าของร้านบริการปรับเปลี่ยนรูปทรงชุดเก่าที่เธอซื้อมาจากร้าน ของมือ สองให้กลายเป็นชุดใหม่ที่ทันสมัย

คุณเฮ็คกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าเนื้อผ้าของชุดเก่าใช้แล้ว ไม่มีผลิตออกมาขายนานแล้ว ทำให้ชุดดูแปลกไม่เหมือนใคร

เหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่คุณเฮ็คเลือกที่จะปรับทรงและสไตล์ชุดเก่ามากกว่าไปซื้อชุดใหม่ก็คือปัญหาในเรื่องขนาดของเสื้อผ้าสำเร็จรูป

เธอบอกว่าปัญหาของเสื้อผ้าสมัยใหม่คือการใช้ขนาดมาตราฐานเป็นเกณฑ์ หากรูปร่างของคุณไม่ได้ตามขนาด มาตราฐานของเสื้อผ้า ชุดที่ซื้อมาสวมก็ไม่ฟิตพอดี เธอ มาใช้บริการที่ร้าน Ginger Root และยอมจ่ายเงินนิดหน่อยเพื่อปรับทรงชุดเก่า ให้พอดีกับรูปร่างของเธอ

นักออกแบบเสื้อผ้าอย่างเคริสเต็น สเว็นสัน กับ อีริน เดิร์ค เป็นเพื่อนคู่หูที่ร่วมกันเปิดร้าน Ginger Root เมื่อสองปีที่แล้ว คุณสเว็นสันกล่าวว่ามีวิธีปรับชุดเก่าให้กลายเป็น เสื้อผ้าชิ้นใหม่ได้อย่างสร้างสรรค์หลายวิธี

เธอกล่าวว่าบางครั้ง แค่สอยให้เข้ารูปก็ใช้ได้เเล้ว บางครั้งอาจจะตัดเเขนเสื้อออก ปรับเอวเข้าหรือบางครั้งอาจจะนำชุดเก่าไปปรับให้กลายเป็นเสื้อหรือเเจ็คเก็ตก็ได้ เธอจะนำเสนอผลงานขึ้นบนหน้าเว็ปไซท์ของร้านหรือบนหน้าบล็อคเพื่อสร้างเเรงบันดาลใจเเก่คนทั่วไป

ส่วนคุณอีรีน เดริ์ค กล่าวว่าการนำเสื้อผ้าตัวเก่ามาปรับเป็นเสื้อผ้าชิ้นใหม่ มักเป็นงาน ที่ท้าทายและต้องใช้ความสามารถ แต่เป็นงานที่สนุก

เธอกล่าวว่างานปรับแบบเสื้อผ้าเก่าก็เหมือนกับงานปฏิมากรรมเพราะต้องมีการตัดเนื้อผ้า บางส่วนออกหรือตัดส่วนที่ฉีกขาดทิ้งไป เป็นงานที่สนุก เป็นงานที่คล้ายกับงานของ นักโบราณคดีเพราะเวลาที่คลี่ดูเเจ็คเก็ตตัวเก่าออกมาดู เธอจะมองเห็นผลงานตัดเย็บของช่างคนเดิม เป็นการเรียนรู้ฝีมือการประดิษฐ์เสื้อผ้าไปในตัว

ด้านมาเรียมม่า เเบ็มเบิ้ล แปรเน็คไทเก่าให้กลายเป็นโบว์หูกระต่าย งานอดิเรกนี้ได้ กลายเป็นธุรกิจส่วนตัว

เธอบอกว่าเธอนำเน็คไทมาแยกออกเป็นชิ้นๆนำไปซักให้สะอาดและ เย็บต่อกันให้ดูดี และมีความทนทานขึ้น หลังจากนั้นเธอจะตัดผ้าออกเป็นชิ้นๆ เป็นรูปทรงต่างกัน แล้วเย็บเข้าด้วยกันเป็นโบว์หูกระต่าย แล้วติดป้ายยี่ห้อของเธอ เข้าไปก่อนจะรีดให้ เรียบเป็นขั้นตอนสุดท้าย คุณ Bramble ขายโบว์หูกระต่ายผ่านทางอินเตอร์เน็ทภายใต้ชื่อ Brownbelle

เธอบอกว่าคนนิยมสินค้าที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ประดิษฐ์ด้วยมือทำให้มีความพิเศษ มากขึ้นกว่าสินค้าโรงงานที่ ผลิตออกมาทีละจำนวนมาก

คุณอีริน เดริ์ก ดีไซเน่อร์แห่งร้าน Ginger Root เห็นด้วยกับประเด็นนี้ เธอบอกว่า ผู้บริโภคต้องการใช้สินค้าที่เป็นมิตร ต่อสิ่งเเวดล้อมมากขึ้น เธอคิดว่างานของทางร้าน ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีต่ออุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้า

เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าอุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้าสร้างขยะมากมาย มีเศษผ้าที่ ต้องทิ้งไป สีย้อมผ้าและ สารเคมีที่เกี่ยวข้องสร้างมลพิษต่อสิ่งเเวดล้อม เธอภูมิใจที่มี ส่วนช่วยลดมลพิษจากอุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้า ต่อสิ่งแวดล้อมลง

สำหรับตัวเธอและนักออกแบบเสื้อผ้าแนวอนุรักษ์สิ่งเเวดล้อม กรีนเเฟชั่นเป็นมากกว่า แค่ความนิยม เธอบอกว่า การผลิตเสื้อผ้าที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสไตล์ที่ยั่งยืน