ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางในรัฐฮาวายสั่งยับยั้งคำสั่งใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์ เรื่องการห้ามคนต่างชาติบางประเทศเข้าสหรัฐฯ
ผู้พิพากษาเเดร์ริค วัตสัน กล่าวว่าคำสั่งของทรัมป์ไม่ผ่านมาตรฐานด้านกฎหมาย และมีโอกาสอย่างมากที่รัฐผู้ยื่นทักท้วงจะประสบความสำเร็จ ในการชี้ว่าคำสั่งนี้เป็นการกีดกันทางศาสนา
ไม่นานหลังศาลมีคำตัดสิน ผู้นำสหรัฐฯ แถลงต่อประชาชนในการปราศรัยที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ว่าข่าวนี้เป็นเรื่องเศร้า และตามความเห็นของคนหลายคน ศาลกำลังใช้อำนาจเกินขอบเขต
เขาบอกด้วยว่าถ้าจำเป็น จะต่อสู้ทางกฎหมายถึงศาลสูงสุดของสหรัฐฯ
คำตัดสินนี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์มีผลบังคับใช้
สรุปว่าแม้ทำเนียบขาวจะปรับเปลี่ยนเนื้อหาของคำสั่งก่อนหน้านี้ แต่ฝ่ายตุลาการที่รับฟ้องก็ยังคงเห็นว่าคำสั่งล่าสุดไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับใหม่นี้โ ดยเปลี่ยนแปลงบางส่วนของคำสั่งห้ามประชาชนจากบางประเทศเข้าสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว หลังจากศาลมีคำตัดสินยับยั้งคำสั่งฉบับก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
สำหรับความแตกต่างของคำสั่งฉบับใหม่ที่สำคัญ ประกอบด้วย การถอนชื่อประเทศอิรักออกจากรายชื่อ 7 ประเทศที่ประชาชนของประเทศนั้นไม่สามารถเข้าสหรัฐฯ ได้ชั่วคราว
ทำให้เหลือ 6 ประเทศที่ถูกระบุในคำสั่งล่าสุด ได้แก่ อิหร่าน ลิเบีย ซีเรีย โซมาเลีย ซูดาน และเยเมน
โดยมาตรการใหม่มีผลวันที่ 16 มีนาคม ซึ่งต่างจากคำสั่งก่อนหน้าที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่ให้โอกาสผู้ที่ได้รับผลกระทบเตรียมตัว
ความแตกต่างอีกประการหนึ่งคือ คำสั่งล่าสุดจะไม่มีผลกับผู้ที่ถือ Green Card หรือใบเขียว และนักท่องเที่ยวจาก 6 ประเทศที่มีวีซ่าถูกต้องมาก่อน