บริษัท SITE Intelligence Group ที่เฝ้าติดตามดูการก่อการร้าย ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ เขียนว่ากลุ่มมุสลิมแนวคิดสุดโต่ง หรือจีฮัด ประกาศว่าคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ห้ามคนจาก 7 ชาติมุสลิมเข้าประเทศเป็นการชั่วคราว เผยให้เห็น “ความเกลียดชังของอเมริกาต่อคนมุสลิม”
ทางทำเนียบขาวได้ประกาศว่า คำสั่งห้ามนี้เป็นเรื่องความปลอดภัยและปกป้องชายแดนของอเมริกา โดยมีอิรัก อิหร่าน ลิเบีย เยเมน ซีเรีย โซมาเลียและซูดาน เป็นเจ็ดประเทศที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งห้ามนี้
ผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดชี้ว่า แม้ว่าคำสั่งห้ามนี้จะไม่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ แต่ชาวอเมริกันราว 1 ใน 3 ของทั้งหมดทั่วประเทศเห็นด้วย และเป็นไปตามคำสัญญาของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
ด้าน John Kelly รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิหรือ Homeland Security กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า คำสั่งห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯ นี้ ไม่ได้มุ่งเป้าที่ชาวมุสลิม และชี้ว่าทางกระทรวงมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยแก่ชาวอเมริกัน มาตุภูมิและค่านิยมของอเมริกา
Jonah Blank นักรัฐศาสตร์อาวุโสประจำบริษัท Rand Corporation กล่าวว่า กลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส กำลังใช้คำสั่งห้ามนี้เป็นเครื่องมือชักจูงคนเข้าร่วมกลุ่ม โดยใช้ในสื่อสังคมออนไลน์หลายสื่อด้วยกัน แต่ใช้ชื่อย่ออื่นๆ แทนชื่อของกลุ่มไอเอส
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า กลุ่มไอเอสได้พยายามขยายอิทธิพลเข้าไปในเอเชีย โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นชาติมุสลิมที่มีประชากรมากที่สุด เช่นเดียวกับเข้าไปในทางใต้ของฟิลิปปินส์
คุณ Greg Poling แห่ง Center for Strategic and International Studies ในฐานะผู้อำนวยการของโครงการ Asia Maritime Transparency Initiative กล่าวว่า กลุ่มไอเอสใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการเผยแแพร่ข้อความของกลุ่ม และสร้างอิทธิผลแก่ผู้ติดตาม
เขากล่าวว่ากลุ่มไอเอสมีเครื่องมือที่กลุ่มก่อการร้ายก่อนหน้านี้ไม่มี นั่นก็คือสื่อสังคมออนไลน์ เช่น YouTube และความสามารถในการล้างสมองให้คนมีความคิดเเนวสุดโต่ง เห็นได้จากเหตุก่อการร้ายขนาดเล็กหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเหล่านี้ในช่วงสองปีที่ผ่านมา
และเขาคิดว่าคำสั่งห้ามพลเมืองจากประเทศมุสลิม 7 ประเทศ เข้าสหรัฐฯ นี้ เป็นเหมือนการเอาน้ำมันไปราดกองเพลิง
Greg Poling กล่าวอีกว่า ประเทศต่างๆ วิตกเกี่ยวกับ "การล้างสมองผ่านสื่อสังคมออนไลน์" ของกลุ่มไอเอส และยังกังวลด้วยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากกลุ่มไอเอสพ่ายแพ้เเละนักรบไอเอสกลับมายังประเทศบ้านเกิด
เขากล่าวว่า ยิ่งมีคนต่างชาติเดินทางมาสหรัฐฯ มากขึ้นเท่าใด ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอเมริกันและสร้างมิตรสหายในสหรัฐฯ มากขึ้น ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อสหรัฐฯ มากขึ้นเท่านั้น
และชี้ว่าประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุด อย่างอินโดนีเซียและปากีสถาน ซึ่งไม่อยู่ในรายชื่อประเทศที่ถูกห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯ หากประเทศเหล่านี้มองว่าสหรัฐฯ ไม่ต้อนรับชาวมุสลิม พวกเขาก็จะส่งลูกหลานไปเรียนต่อในออสเตรเลียหรือในอังกฤษแทน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสหรัฐฯ
(รายงานโดย Steve Miller / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว)