โรงภาพยนตร์ในอเมริกา ทยอยกลับมาเปิดกิจการเริ่มต้นวันพฤหัสบดีนี้ นับเป็นการกลับมาเปิดให้บริการครั้งแรกในรอบ 5 เดือนที่ธุรกิจบันเทิงนี้ต้องปิดตัวเพราะโควิด-19
เครือโรงภาพยนตร์ AMC เป็นเครือโรงหนังเจ้าแรกที่เปิดให้บริการในวันพฤหัสบดี (20 สิงหาคม) ในกว่า 100 แห่งทั่วอเมริกา พร้อมอัดโปรโมชั่นชมภาพยนตร์คลาสสิคและหนังเข้าใหม่เมื่อต้นปีก่อนโควิดระบาด ด้วยราคาค่าตั๋วเพียง 15 เซนต์ หรือราว 5 บาท ซึ่งเท่ากับราคาตั๋วชมภาพยนตร์เมื่อปี ค.ศ. 1920 และโปรโมชั่นตั๋วหนัง 5 ดอลลาร์ หรือราว 150 บาท ซึ่งถูกกว่าค่าตั๋วปกติเพื่อฉลองการกลับมาเปิดกิจการ
วิถีการชมภาพยนตร์ช่วงโควิด ทาง AMC มีมาตรการให้ผู้เข้าชมภาพยนตร์ต้องสวมหน้ากาก จำกัดจำนวนที่นั่งให้ไม่เกิน 40% ต่อโรงภาพยนตร์
ขณะที่เครือโรงภาพยนตร์ Regal จะกลับมาเปิดในวันศุกร์นี้ตามเวลาสหรัฐฯ ด้วยภาพยนตร์คลาสสิคและภาพยนตร์ใหม่ที่เข้าฉายเพียงหยิบมือ หลังจากที่ค่ายหนังใหญ่เลื่อนวันฉายหนังฟอร์มยักษ์ของค่าย รวมทั้งย้ายแพลตฟอร์มไปไว้ในแอพพลิเคชันสตรีมมิ่งแทนกันเป็นจำนวนมาก ตามรายงานของ CNBC
อย่างไรก็ตาม คาดกันว่าภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ได้เปิดฤดูกาลหนังในปีนี้ ยังคงเป็น Tenet ภาพยนตร์สายลับข้ามเวลาล่าอนาคตสุดล้ำยุค ฝีมือการกำกับของคริสโตเฟอร์ โนแลน และนำแสดงโดยจอห์น เดวิด วอชิงตัน และโรเบิร์ต แพททินสัน ที่มีกำหนดเข้าฉาย 3 กันยายนนี้ และ Wonder Woman 1984 มีกำหนดเข้าฉาย 2 ตุลาคมนี้ ส่วน มู่หลาน (Mulan) ของค่ายดิสนีย์ ย้ายแพลตฟอร์มเข้าไปฉายบนแอพพลิเคชันสตรีมมิ่งของดิสนีย์ ดิสนีย์ พลัส (Disney+) ในราคา 29.99 ดอลลาร์ หรือกว่า 900 บาท
ปัจจุบัน มีโรงหนังราว 1,100 แห่งที่เปิดให้บริการทั่วอเมริกา ซึ่ง 300 แห่งในนั้นเป็นโรงหนังแบบ Drive-in ที่ต้องขับรถเข้าไปชมแบบหนังกลางแปลง และในวันศุกร์นี้คาดว่าจะสามารถกลับมาเปิดโรงภาพยนตร์ได้ราว 1,500 แห่ง จากเมื่อปีก่อนที่มีโรงภาพยนตร์ราว 5,200 แห่ง ตามข้อมูลของ Comscore ขณะที่รายได้ของ AMC ร่วงถึง 96% ในไตรมาสสองของปีนี้ ที่โรงภาพยนตร์ปิดตัวช่วงโควิดระบาด
