แอปเปิล กลายมาเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันแห่งแรกที่มีมูลค่าธุรกิจรวมถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ในช่วงที่วิกฤติการระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจทั่วโลกซบเซาอยู่
สำนักข่าว Associated Press รายงานว่า ราคาหุ้นของ แอปเปิล พุ่งขึ้นถึงเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แม้ว่าโรงงานที่ผลิตชิ้นส่วนโทรศัพท์ iPhone ของตนในประเทศจีนและร้านค้าตัวแทนทั่วโลกต้องปิดทำการระยะหนึ่งเพราะการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่
รายงานข่าวระบุว่า ลูกค้าที่ยังมีความซื่อสัตย์ต่อ แอปเปิล เดินหน้าซื้อเครื่องโทรศัพท์ iPhone และอุปกรณ์อื่นๆ ของบริษัทผ่านระบบออนไลน์มาตลอดช่วงที่ต้องกักตัวอยู่ภายในเคหสถาน โดย แอปเปิล เพิ่งประกาศตัวเลขรายได้ประจำไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ซึ่งออกมาสูงเกินคาดไปแล้ว
นอกจากนั้น แผนการแตกหุ้นจาก 1 เป็น 4 ที่บริษัทเพิ่งประกาศเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ทำให้หุ้นของ แอปเปิล มีราคาที่ไม่สูงไปและนักลงทุนจำนวนมากสามารถเข้าถึงได้ จนตลาดหุ้นตื่นตัวและการซื้อขายพุ่งขึ้นทันที
ทั้งนี้ แอปเปิล ยืนอยู่ในแถวหน้าของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตคนและตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อรวมมูลค่าหุ้นของ แอปเปิล ไมโครซอฟท์ แอมะซอน เฟซบุ๊ก และกูเกิล เข้าด้วยกันแล้วจะมีสัดส่วนถึงเกือบ 23 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดทั้งหมดที่ซื้อขายภายใต้ดัชนี S&P 500 ด้วย
ก่อนหน้านี้ ซาอุดิ อะแรมโก บริษัทพลังงานของทางการซาอุดิอาระเบีย ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าทางตลาดถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์หลังแปรสภาพมาเป็นบริษัทมหาชนเมื่อเดือนธันวาคมของปีที่แล้ว แต่ราคาหุ้นของบริษัทแห่งนี้ร่วงลงมา หลังราคาน้ำมันลดลง ทำให้ปัจจุบัน มูลค่าของ ซาอุดิ อะแรมโก อยู่ที่ราว 1.82 ล้านล้านดอลลาร์