ทำเนียบขาวประกาศในวันจันทร์ว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการรุนแรงที่สุดเพื่อขัดขวางไม่ให้รัสเซียเข้าถึงทรัพย์สินของตนได้ โดยมุ่งเป้าไปที่ทั้งธนาคารกลางรัสเซียและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund หรือ RDIF)
การดำเนินมาตรการลงโทษล่าสุดของสหรัฐฯ มีขึ้น ขณะที่การรุกรานยูเครนโดยกองทัพรัสเซียกำลังเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ท่ามกลางแรงกดดันอย่างหนักทางการทูตและทางเศรษฐกิจ และเป็นวันเดียวกันกับที่คณะผู้แทนจากทั้งรัสเซียและยูเครนเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพบริเวณใกล้ชายแดนยูเครนและเบลารุส
เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ รายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า มาตรการจากสหรัฐฯ ครั้งนี้จะมีผลต่องบในการทำสงครามของรัสเซีย โดยทำเนียบขาวประมาณการว่า ธนาคารกลางรัสเซียมีทรัพย์สินราว 630,000 ล้านดอลลาร์ โดยถูกเก็บในสกุลเงินต่างๆ ซึ่งรวมทั้งสกุลเงินดอลลาร์
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวระบุด้วยว่า ธนาคารกลางรัสเซียพยายามนำทรัพย์สินเหล่านั้นกลับรัสเซียหรือนำไปเก็บในแหล่งหลบภัย เพื่อใช้ในการสนับสนุนเศรษฐกิจและสกุลเงินของตน แต่การประกาศห้ามทำธุรกรรมกับหน่วยงานทางการเงินสองแห่งของรัสเซียในครั้งนี้ จะทำให้หน่วยงานดังกล่าวไม่สามารถโอนย้ายหรือเข้าถึงทรัพย์สินของตนที่อยู่ในสหรัฐฯ หรือถูกเก็บเป็นเงินดอลลาร์ได้
ขณะเดียวกัน ประเทศอื่นๆ ออกประกาศมาตรการลงโทษรัสเซียในวันจันทร์เช่นกัน เช่น อังกฤษที่สั่งห้ามการทำธุรกรรมกับธนาคารกลาง กระทรวงการคลัง และกองทุนความมั่งคั่งของรัสเซีย ขณะที่สิงคโปร์ประกาศมาตรการลงโทษต่างๆ รวมทั้งมาตรการที่พุ่งเป้าไปที่การทำธุรกรรมกับธนาคารและการควบคุมการส่งออกด้วย
ท่าทีจากประเทศต่างๆ มีขึ้นหลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรพยายามพุ่งเป้าไปที่เศรษฐกิจและระบบธนาคารของรัสเซียโดยตัดธนาคารรัสเซียออกจากระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก SWIFT ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรการลงโทษประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ต่อการบุกรุกยูเครน
การตัดสถาบันการเงินของรัสเซียออกจากระบบดังกล่าวเป็นการประกาศร่วมกันของคณะกรรมาธิการยุโรป อังกฤษ แคนาดา เยอรมนี และอิตาลีเมื่อวันเสาร์ โดยกลุ่มประเทศดังกล่าวยังประกาศยกระดับจำกัดไม่ให้ธนาคารกลางรัสเซียไม่ให้เคลื่อนย้ายเงินสำรองระหว่างประเทศ จำกัดการออกหนังสือเดินทางต่างชาติให้เศรษฐีชาวรัสเซีย จัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อพุ่งเป้าไปที่ทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่และบุคคลระดับสูงของรัสเซีย และยกระดับความร่วมมือเพื่อรับมือกับข้อมูลเท็จและสงครามผสมผสานรูปแบบอื่นๆ
เมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียจะได้รับผลกระทบโดยเร็วจากการที่ธนาคารของตนถูกตัดออกจากระบบ SWIFT และสหรัฐฯ กำลังเตรียมยกระดับมาตรการลงโทษต่างๆ หากรัสเซียยังคงเดินหน้ารุกรานยูเครน
ในวันเดียวกัน ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียได้วางแผนรับมือกับมาตรการลงโทษต่างๆ ไว้แล้วและอาจชดเชยความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ ยูเครนระบุเมื่อวันอาทิตย์ว่า นับตั้งแต่รัสเซียบุกรุกยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 350 คน บาดเจ็บอีก 1,700 คน อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อมูลของกองกำลังยูเครนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่รัสเซียระบุว่า กองกำลังของตนได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่เผยแพร่ตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต