ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สหรัฐฯ-อียู-อังกฤษ ขับรัสเซียออกจากระบบ SWIFT


Swift logo is placed on a Russian flag are seen in this illustration taken, Bosnia and Herzegovina, February 25, 2022. REUTERS/Dado Ruvic/Illustration
Swift logo is placed on a Russian flag are seen in this illustration taken, Bosnia and Herzegovina, February 25, 2022. REUTERS/Dado Ruvic/Illustration

ในวันเสาร์ สหรัฐฯ และพันธมิตรประเทศโลกตะวันตก เตรียมตัดธนาคารบางแห่งของรัสเซียออกจากระบบชำระเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก หรือที่รู้จักกันในนาม SWIFT ซึ่งเป็นความพยายามล่าสุดที่จะแตะเบรกหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและทางธนาคารของรัสเซีย เพิ่มเติมจากมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจก่อนหน้านี้

การตัดสินใจขับสถาบันทางการเงินของรัสเซียออกจาก SWIFT เป็นการตัดสินใจอย่างพร้อมเพรียงกันระหว่างสหรัฐฯ สหภาพยุโรปหรืออียู อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี กลุ่มประเทศเหล่านี้กล่าวในแถลงการณ์ในวันเสาร์ว่า “ขณะที่กองกำลังรัสเซียกำลังโจมตีกรุงเคียฟ และเมืองอื่น ๆ ของยูเครนนั้น พวกเรามุ่งมั่นที่จะทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตน โดยการโดดเดี่ยวรัสเซียจากระบบการเงินระหว่างประเทศ และจากเศรษฐกิจของพวกเรา”

พันธมิตรประเทศโลกตะวันตกยังได้ประกาศว่าจะใช้มาตรการอื่นอีก 4 ประการ นั่นคือ “ใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารกลางของรัสเซียใช้กองทุนสำรองระหว่างประเทศ” ดำเนินการเพื่อจำกัดการออกหนังสือเดินทางต่างประเทศให้กับเศรษฐีชาวรัสเซีย ตั้งคณะทำงานระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกที่จะมุ่งเป้าไปที่ทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ระดับสูงและบุคคลสำคัญของรัสเซีย นอกจากนี้กลุ่มพันธมิตรประเทศโลกตะวันตกยังได้ประกาศว่าจะ “เพิ่มการประสานงานเพื่อต่อสู้กับการให้ข้อมูลผิด ๆ และการทำสงครามลูกผสมแบบอื่น ๆ” อีกด้วย

เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้หนึ่ง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าการปลดรัสเซียออกจากระบบชำระเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก SWIFT ซึ่งเป็นมาตรการที่ทำเนียบขาวเคยยับยั้งไม่ใช้ก่อนหน้านี้ จะส่งผลต่อกรุงมอสโกโดยทันที

เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวว่า สิ่งที่สหรัฐฯ และพันธมิตรกำลังทำอยู่คือการตัดแขนตัดขาของธนาคารกลางของรัสเซีย โดยการห้ามไม่ให้พลเมืองสหรัฐฯ อียู และอังกฤษ ขายเงินสกุลรูเบิลของรัสเซียให้กับธนาคารกลางของรัสเซีย ซึ่งนั่นหมายความว่า ธนาคารกลางของรัสเซียจะไม่สามารถสนับสนุนหรือค้ำจุนสกุลเงินของตนได้ ซึ่งจะทำให้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจมีความหนักหน่วงมากย่ิงขึ้น

FILE PHOTO: A view shows a Russian rouble coin and a U.S. dollar banknote in this picture illustration taken October 26, 2018. REUTERS/Maxim Shemetov/File Photo
FILE PHOTO: A view shows a Russian rouble coin and a U.S. dollar banknote in this picture illustration taken October 26, 2018. REUTERS/Maxim Shemetov/File Photo

มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์ สหรัฐฯ ประกาศ์ว่าจะระงับการดำเนินการด้านทรัพย์สินของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ หลังจากที่สหภาพยุโรป และอังกฤษประกาศใช้มาตรการเดียวกันไปก่อนหน้านี้ ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกหาทางใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจที่เข้มข้นต่อรัสเซียที่ทำการบุกโจมตียูเครน

กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ประกาศว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศในสหภาพยุโรป หรืออียู ได้ประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ก่อนที่จะมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ระงับการดำเนินการด้านทรัพย์สินและบัญชีธนาคารของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย

รัฐบาลของอังกฤษใช้มาตรการเดียวกันในวันศุกร์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลิซ ทรัสส์ (Liz Truss) โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่า “เราจะไม่หยุดสร้างความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลเครมลินจนกว่ายูเครนจะได้รับอธิปไตยกลับคืนมา”

โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา (Maria Zakharova) กล่าวว่ามาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อประธานาธิบดีปูตินและ รมต.ต่างประเทศลาฟรอฟ แสดงให้เห็นถึง “ความไร้สมรรถภาพอย่างที่สุด” ของชาติตะวันตกในการดำเนินนโยบายการต่างประเทศ ตามการรายงานของ RIA News ซึ่งเป็นสำนักข่าวของรัฐบาลรัสเซีย

ที่ผ่านมารัสเซียได้ออกมาตอบโต้ โดยการห้ามไม่ให้สายการบินของสหราชอาณาจักรบินเข้ามาในเขตประเทศของตน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ อังกฤษห้ามสายการบินแอโรฟลอท (Aeroflot) ของรัสเซียเช่นกัน

ที่มา: วีโอเอ, เอพี, รอยเตอร์, เอเอฟพี

XS
SM
MD
LG