รัฐบาลสหรัฐฯ ขีดเส้นตาย 4 มกราคมปีหน้า ให้บริษัทในอเมริกา ซึ่งมีพนักงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป บังคับพนักงานให้ต้องฉีดวัคซีนให้ครบโดส หรือเลือกที่จะตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกสัปดาห์ ตามมาตรการล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (4 พฤศจิกายน)
ทางสำนักงานด้านความปลอดภัยและสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพ (Occupational Safety and Health Administration) หรือ OSHA ระบุว่า มาตรการนี้จะมีผลกับพนักงานราว 84 ล้านคนในบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ให้ต้องเลือกระหว่างบังคับพนักงานฉีดวัคซีนให้ครบโดส หรือหากไม่ฉีดวัคซีนจะต้องตรวจหาเชื้อโควิดอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และต้องสวมหน้ากากขณะอยู่ในสำนักงาน แต่ก็ยังให้สิทธิ์กับพนักงานในการขอยกเว้นการฉีดวัคซีน ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพหรือศาสนาได้ และมาตรการนี้ไม่มีผลกับพนักงานที่ทำงานจากบ้านหรือทำงานด้านนอกอาคาร
บริษัทที่ฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าว จะถูกโทษปรับเกือบ 14,000 ดอลลาร์ต่อการกระทำผิด 1 กรณี แม้ตอนนี้ยังมีความไม่ชัดเจนถึงการบังคับใช้มาตรการดังกล่าว แต่ทางเจ้าหน้าที่อาวุโสของหน่วยงานนี้ ระบุว่า มาตรการนี้จะพุ่งเป้าไปที่บริษัทที่ถูกร้องเรียนเป็นหลัก
ทาง OSHA เชื่อว่า มาตรการนี้จะช่วยชีวิตพนักงานกว่า 6,500 ราย และป้องกันการเจ็บป่วยหนักจากโควิดมากกว่า 250,000 รายในระยะ 6 เดือนข้างหน้าได้
ปธน.ไบเดน ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า แม้ตนไม่ต้องการให้มีการบังคับใช้มาตรการนี้ก็ตาม แต่ยังมีผู้คนอีกมากที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนเพื่อช่วยให้ทุกคนรอดพ้นจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งมาตรการด้านวัคซีนเคยมีผลบังคับใช้มาก่อนกับโรคอื่นๆ และว่าการผลักดันภาคธุรกิจให้มีมาตรการเรื่องวัคซีนโควิด-19 จะไม่นำไปสู่การปลดพนักงานจำนวนมหาศาลหรือภาวะขาดแคลนแรงงานแต่อย่างใด ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะมีการต่อสู้ในชั้นศาลเกี่ยวกับมาตรการนี้
ก่อนหน้านี้ มีบริษัทใหญ่หลายแห่งในอเมริกามีมาตรการบังคับฉีดวัคซีนกับพนักงานบ้างแล้ว อย่างเช่น Walmart ที่ให้พนักงานทุกคนที่ทำงานในสำนักงานใหญ่ที่รัฐอาร์คันซอ ต้องฉีดวัคซีนให้ครบโดสก่อน 4 ตุลาคมที่ผ่านมา
ส่วนสายการบิน United Airlines บังคับพนักงานในสหรัฐฯ เลือกระหว่างการฉีดวัคซีนกับการถูกไล่ออก ซึ่งพบว่ามีพนักงานในสัดส่วนน้อยมากจากจำนวนพนักงาน 67,000 คนในสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธจะฉีดวัคซีน และบริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร Tyson Foods สั่งพนักงาน 120,000 คนในอเมริกาให้ฉีดวัคซีนก่อน 1 พฤศจิกายน และพบว่าพนักงาน 96% ของบริษัทฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
ขณะที่สมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติ หรือ NRF มองว่ามาตรการดังกล่าวไม่มีความจำเป็น เพราะยอดติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯ ปรับลดลงกว่าครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา และว่ามาตรการนี้จะเป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมค้าปลีกในฤดูการจับจ่ายช่วงสิ้นปีนี้อย่างมาก
(ที่มา: เอพี)
