มิเชลล์ วู สมาชิกสภานครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีนครบอสตันเมื่อวันอังคาร ถือเป็นนายกเทศมนตรีจากการเลือกตั้งคนแรกของเมืองนี้ที่เป็นผู้หญิงและเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ตามรายงานของสำนักข่าว The Associated Press
ก่อนหน้านี้เมืองบอสตันมีนายกเทศมนตรีเป็นชายผิวขาวมาโดยตลอด โดยวูเอาชนะแอนนิสซา เอสซัยบิ จอร์จ สมาชิกสภานครบอสตันอีกรายไปได้ ทั้งนี้ วูจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 16 พฤศจิกายน
วูได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองแนวหน้าหลายคน รวมทั้งจาก คิม เจนีย์ รักษาการนายกเทศมนตรีนครบอสตัน เอลิซาเบธ วอร์เรน และเอ็ดวาร์ด มาร์คีย์ สองวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ และ ไอยานนา เพรสลีย์ ส.ส. สหรัฐฯ และอดีตสมาชิกสภานครบอสตัน
นครบอสตันเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์การต่อสู้ด้านเชื้อชาติมายาวนาน เช่น เหตุความรุนแรงเมื่อช่วงทศวรรษที่ 1970 ที่มีสาเหตุจากคำสั่งศาลให้ยกเลิกการแย่งแยกสีผิวในโรงเรียนรัฐบาล ทำให้มีนักเรียนผิวดำจำนวนมากที่ต้องไปเรียนในโรงเรียนที่มีนักเรียนส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาว และมีนักเรียนผิวขาวที่ไปเรียนในโรงเรียนที่นักเรียนส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ
ทั้งนี้ ผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีหลักทั้งห้าคนในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ระบุว่า ตนเป็นคนผิวสี และทั้งหมดเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต
วู วัย 36 ปี เกิดในครอบครัวผู้อพยพจากไต้หวัน เติบโตในนครชิคาโก และย้ายมาที่นครบอสตันเพื่อศึกษาในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและวิทยาลัยกฎหมายฮาร์วาร์ด
ทางด้าน แอนนิสซา เอสไซบิ จอร์จ ผู้ท้าชิงชาวบอสตันวัย 47 ปี และอดีตครูโรงเรียนรัฐบาล ระบุว่า เธอคือชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับ-โปแลนด์รุ่นแรก พ่อของเธอเป็นผู้อพยพชาวมุสลิมจากตูนิเซีย ในขณะที่แม่ของเธอเป็นชาวคาทอลิกอพยพจากโปแลนด์
ในระหว่างการหาเสียง วูให้ความสำคัญกับนโยบายที่อยู่อาศัยและการคมนาคมในนครบอสตันที่มีประชากร 675,000 คน โดยเธอรับปากว่าจะดำเนินนโยบายรักษาระดับราคาค่าเช่าหรือควบคุมค่าเช่าเพื่อรับมือกับปัญหาราคาที่อยู่อาศัยพุ่งสูงขึ้นจนชาวบอสตันบางส่วนย้ายบ้านออกจากเมือง ทั้งนี้ เมื่อปีค.ศ.1994 รัฐแมสซาชูเซตส์ลงประชามติรับรองกฎห้ามให้มีการควบคุมค่าเช่าทั่วทั้งรัฐ
วูยังรับปากด้วยว่า จะสร้างระบบขนส่งสาธารณะที่ผู้โดยสารไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของเมือง รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และช่วยเหลือผู้ที่โดยสารรถประจำทางหรือรถไฟใต้ดินไปเรียนหรือทำงาน
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่ควบคุมค่าโดยสารรถสาธารณะนั้นไม่ใช่เทศบาลนครบอสตัน แต่เป็นการคมนาคมอ่าวแมสซาชูเซตส์ โดยวูระบุว่า เธอจะร่วมมือกับหน่วยงานระดับรัฐแมสซาชูเซตส์เพื่อดำเนินนโยบายตามที่หาเสียงให้ได้
ความท้าทายด้านอื่นที่วูต้องเผชิญในฐานะผู้นำคนใหม่ของนครบอสตัน ได้แก่ ระบบการศึกษา การตำรวจ การรับมือกับโรคโควิด-19 และผลกระทบระยะยาวของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อนครบอสตัน ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่ง
ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ยังเป็นบททดสอบสำหรับวู ผู้ไม่ได้เกิดและเติบโตที่นครบอสตัน แต่สามารถคว้าชัยในเมืองที่เคยมีแต่ผู้นำเป็นคนท้องถิ่นมาได้
เมื่อปี ค.ศ. 2013 วูในวัย 28 ปี ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภานครบอสตัน โดยเป็นหญิงชาวเอเชียนอเมริกันคนแรกที่ได้รับตำแหน่งดังกล่าว ต่อมาในปีค.ศ. 2016 เธอเป็นหญิงผิวสีคนแรกที่ได้เป็นประธานสภานครบอสตัน
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า นครบอสตันมีความหลากหลายมากขึ้น โดยผลสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด ระบุว่า ชาวบอสตันเป็นคนผิวขาว 44.6 เปอร์เซ็นต์ คนผิวดำ 19.1 เปอร์เซ็นต์ คนละติน 18.7 เปอร์เซ็นต์ และคนเอเชีย 11.2 เปอร์เซ็นต์
มาร์ตีย์ วอลช์ นายกเทศมนตรีนครบอสตันคนที่แล้ว ลงจากตำแหน่งเมื่อช่วงต้นปีเพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ โดยคิม เจนีย์ เข้ารับตำแหน่งรักษาการผู้นำเมืองบอสตันเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ทำให้เธอเป็นผู้หญิงและคนผิวดำคนแรกที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
- ที่มา: สำนักข่าว The Associated Press