ตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่าวันละ 107,000 คนในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม อ้างอิงจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ณ วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม
ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่าจากสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาทั่วประเทศ
ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นในสัปดาห์นี้ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้นเป็นหลายแสนคนต่อวัน เช่นเดียวกับช่วงที่เกิดการระบาดหนักเมื่อต้นปีนี้
เมื่อต้นเดือนมกราคม ยอดผู้ติดโควิดในอเมริกาเคยพุ่งขึ้นไปแตะระดับเกือบ 250,000 คนต่อวัน ก่อนที่จะลดลงเหลือประมาณ 10,000 คนต่อวันเมื่อต้นเดือนมิถุนายน
ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ชี้ด้วยว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิดในสหรัฐฯ โดยเฉลี่ย 7 วันอยู่ที่ระดับวันละเกือบ 500 คน เพิ่มขึ้นจากระดับเฉลี่ย 270 คนในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เวลานี้มีคนอเมริกันวัยผู้ใหญ่มากกว่า 70% ฉีดวัคซีนโควิดแล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม และราว 50.6% หรือมากกว่า 166.2 ล้านคนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
รัฐฟลอริดา ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดระลอกใหม่ในอเมริกา มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 23,903 คนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่ามากที่สุดเป็นสถิติใหม่ของรัฐนี้
รัฐในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ เช่น แอละแบมา และมิสซิสซิปปี ซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุดในประเทศ คือต่ำกว่า 35% เป็นภูมิภาคที่มีอัตราผู้ป่วยโควิดเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นมากที่สุด อยู่ที่ระดับเฉลี่ย 17,600 คนต่อวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามข้อมูลของซีดีซีและเอพี
(ที่มา: วีโอเอ เอพี และรอยเตอร์)