สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแผนกำหนดให้ชาวต่างชาติเกือบทุกคนที่จะเดินทางเข้าสหรัฐฯ ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสเสียก่อน
มาตรการใหม่นี้คือส่วนหนึ่งของความพยายามยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทางที่รัฐบาลสหรัฐฯ นำมาใช้ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่เมื่อปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายว่าจะสามารถกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจการบินของอเมริกาได้ แต่ยังไม่สามารถยกเลิกได้ทั้งหมดเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาในขณะนี้
รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า เวลานี้รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อทบทวนและนำระบบใหม่นี้มาใช้ทันทีที่พร้อมจะเปิดรับชาวต่างชาติอีกครั้ง ภายใต้เงื่อนไขว่าชาวต่างชาติจากทุกประเทศที่จะเดินทางเข้าสหรัฐฯ จะต้องได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
รัฐบาลอเมริกันเริ่มจำกัดการเดินทางของชาวต่างชาติที่จะเข้ามายังสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว โดยเริ่มจากประเทศจีน ก่อนที่จะเพิ่มรายชื่อประเทศต่าง ๆ ที่มีการระบาดในระดับสูงในประเทศนั้น ๆ โดยประเทศล่าสุดที่ถูกจำกัดโดยทางการสหรัฐฯ คือ อินเดีย เมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้
อย่างไรก็ตาม บางประเทศ เช่น แคนาดา และอังกฤษ ได้รับการผ่อนคลายหรือยกเลิกข้อจำกัดดังกล่าวสำหรับคนอเมริกันที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว
ทางทำเนียบขาวได้หารือกับบรรดาสายการบินต่าง ๆ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ว่าจะสามารถบังคับใช้กฎเกณฑ์ใหม่นี้ได้อย่างไร จะยอมรับหลักฐานหรือเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนแบบไหน และจะยอมรับวัคซีนโควิดที่ยังไม่ผ่านการรับรองของหน่วยงานของสหรัฐฯ หรือไม่
นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาว่าจะยอมรับชาวต่างชาติที่เดินทางทางบกผ่านพรมแดนที่ติดกับแคนาดาและเม็กซิโกด้วยเงื่อนไขเดียวกันหรือไม่
บรรดาเจ้าหน้าที่ของธุรกิจต่าง ๆ เชื่อว่าอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ หรืออาจหลายเดือนกว่าที่รัฐบาลอเมริกันจะนำกฎเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้จริง