ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สหรัฐฯ ประกาศงบสนับสนุนการทหารฟิลิปปินส์มูลค่า $500 ล้าน


รมต.กลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน (ซ้ายสุด) รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน รมต.ต่างประเทศฟิลิปปินส์ เอนริเก มานาโล และรมต.กลาโหมฟิลิปปินส์ จิลแบร์โต ทีโอโดโร ร่วมถ่ายภาพที่กรุงมะนิลา เมื่อ 30 ก.ค. 2567
รมต.กลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน (ซ้ายสุด) รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน รมต.ต่างประเทศฟิลิปปินส์ เอนริเก มานาโล และรมต.กลาโหมฟิลิปปินส์ จิลแบร์โต ทีโอโดโร ร่วมถ่ายภาพที่กรุงมะนิลา เมื่อ 30 ก.ค. 2567

สหรัฐฯ ประกาศมอบงบสนับสนุนทางทหารมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ให้กับฟิลิปปินส์ในวันอังคาร หลังการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคนและรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน และผู้นำรัฐบาลมะนิลาเพื่อหารือการยกระดับความร่วมมือของสองประเทศในหลายด้าน ซึ่งรวมถึง เสรีภาพในการเดินเรือและความมั่นคงทางไซเบอร์ด้วย

ในการแถลงข่าวร่วมที่กรุงมะนิลา รมต.ออสติน เรียกงบสนับสนุนดังกล่าวว่า เป็น “การลงทุนครั้งหนึ่งของยุคสมัย” เพื่อช่วยปรับปรุงกองทัพฟิลิปปินส์ให้ทันสมัย

จิลเบอร์โต ทีโอโดโร จูเนียร์ รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ กล่าวว่า การลงทุนทางทหารนั้นจะยกระดับความพร้อมด้านกลาโหมของประเทศขึ้นและยังจะช่วยป้องปราม “การรุกรานที่ผิดกฎหมายและไม่มีใครต้องการ” ด้วย

รมต.บลิงเคนกล่าวเสริมว่า ทั้งสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ต่างมีความกังวลร่วมกันเกี่ยวกับพฤติกรรมของจีนในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก และได้แสดงความยินดีต่อการทำข้อตกลงระหว่างจีนและฟิลิปปินส์ในการป้องกันการปะทะกันในพื้นที่สันดอนเซคันด์โธมัสโชล (Second Thomas Shoal) ที่ฟิลิปปินส์ควบคุมอยู่ พร้อมกล่าวว่า ข้อยุติทางการทูตดังกล่าวควรเป็น “มาตรฐาน ไม่ใช่เพียงข้อยกเว้น”

รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า “เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่มีความซับซ้อนอย่างน่าเหลือเชื่อ และด้วยเหตุนี้ ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสองประเทศของเราจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เป็นมา และความมุ่งมั่นของเราที่จะผลักดันให้ประเด็นนี้เดินหน้าต่อไปจากนี้จนถึงวันข้างหน้าก็เป็นสิ่งที่เราตัดสินใจร่วมกันแล้ว”

และในช่วงเช้าของวันอังคารตามเวลาในฟิลิปปินส์ บลิงเคนและออสตินได้พบกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ และได้ยืนยันความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ “ในการค้ำชูกฎหมายระหว่างประเทศในทะเลจีนใต้” ด้วย

ก่อนการประชุมกับบลิงเคนและออสติน ปธน.มาร์กอส จูเนียร์ กล่าวว่า ตน “รู้สึกยินดีอย่างมากที่ช่องทางการสื่อสารเหล่านี้เปิดกว้างอย่างมาก เพื่อว่า ทุกอย่างที่เราทำร่วมกัน ในด้านความเป็นพันธมิตร ในด้านของบริบทจำเพาะเกี่ยวกับสถานการณ์ของเรา ในทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตกและในอินโด-แปซิฟิก จะมีการพิจารณาตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและมีการพิจารณาตรวจสอบอีก เพื่อว่า เราจะได้มีความคล่องตัวในการโต้ตอบของเราต่อไป”

ซาบรินา ซิงห์ รองโฆษกเพนตากอนระบุในแถลงการณ์ว่า “รมต.ออสตินและรมต.บลิงเคนได้ยืนยันการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อฟิลิปปินส์ในการปกป้องสิทธิทางอธิปไตยของตน และเจ้าหน้าที่ทั้งสองได้หารือความสำคัญของการปกปักรักษาสิทธิของทุกประเทศในการทำการบิน แล่นเรือและดำเนินการ – อย่างปลอดภัยและโดยมีความรับผิดชอบ – ในพื้นที่กฎหมายระหว่างประเทศมีผลบังคับใช้”

แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่(สหรัฐฯ) ยังได้เน้นย้ำพันธกรณีที่แข็งแกร่งดุจหุ้มด้วยเกราะซึ่งสหรัฐฯ มีให้ฟิลิปปินส์ ภายใต้สนธิสัญญาป้องกันประเทศร่วม (Mutual Defense Treaty) ของเรา” อีกด้วย

  • ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพีและรอยเตอร์

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG