ทางการยูเครนรายงานว่า รัสเซียยิงจรวดเข้าโจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของตนในวันพฤหัสบดี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 คนและบาดเจ็บอีก 6 คน ขณะที่ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เดินทางไปสเปนเพื่อร้องขอการสนับสนุนจากพันธมิตรในยุโรปให้นำส่งระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศมาเพิ่มให้
อันดรีย์ เยอรมัก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีและ โอเลห์ ไซนีเอฮูบอฟ ผู้ว่าการเขตปกครองคาร์คิฟ เปิดเผยว่า การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นกับจุดที่เป็นร้านค้าและร้านกาแฟในหมู่บ้านฮโรซา ในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ เด็กชายอายุ 6 ขวบ และมีเด็กอีกหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บด้วย
คลิปวิดีโอที่ทางการยูเครนเผยแพร่ออกมาทางสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นภาพของเจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวนหนึ่งกำลังพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ ขณะที่ มีศพเกลื่อนกลาดท่ามกลางเศษซากคอนกรีตและเศษเหล็ก
ก่อนหน้านั้น กองทัพอากาศของยูเครนเพิ่งรายงานว่า รัสเซียส่งโดรนทั้งหมด 29 ลำเข้ามาโจมตีเขตปกครองโอเดสซา มีโคลาอิฟ และคิโรฮอฟราด ตั้งแต่เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ก่อนที่ระบบป้องกันการโจมตีของตนจะสามารถยิงตกลงได้ 24 ลำ
ขณะเดียวกัน ปธน.เซเลนสกี โพสต์ข้อความผ่านแอปเทเลแกรมว่า “การก่อการร้ายของรัสเซียควรจะต้องหยุดได้แล้ว” และว่า “เรากำลังหารือกับผู้นำยุโรปอยู่ โดยเฉพาะในประเด็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ ทหารของเรา และเกี่ยวกับการจัดหาระบบคุ้มกันประเทศของเราจากการก่อการร้าย”
และก่อนหน้าจะมีรายงานการโจมตีที่คาร์คิฟ ปธน.ยูเครนบอกกับผู้สื่อข่าวหลังเดินทางถึงเมืองกรานาดา ประเทศสเปน ว่า “ความท้าทายหลักก็คือ การที่เราจะต้องรักษาความสามัคคีในยุโรปไว้ให้ได้” พร้อมกล่าวเสริมว่า สิ่งสำคัญสำหรับยูเครนคือ “การมีโล่ป้องกันสำหรับฤดูหนาว” ซึ่งเป็นช่วงที่คาดกันว่า รัสเซียจะดำเนินการโจมตีอย่างหนักด้วยขีปนาวุธและโดรนจากอิหร่านจำนวนมาก
ผู้นำยูเครนกล่าวเสริมว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และสองพรรคใหญ่ของสหรัฐฯ ในสภาคองเกรสได้สัญญาที่จะให้การสนับสนุนกรุงเคียฟ 100% หลังรัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายงบประมาณชั่วคราวระยะสั้นเพื่อไม่ให้รัฐบาลต้องปิดทำการ โดยไม่ได้มีส่วนที่เป็นงบสนับสนุนยูเครน
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า ปธน.ไบเดน พูดคุยกับเหล่าพันธมิตรชาติตะวันตกในวันอังคารเพื่อให้ความมั่นใจว่า สหรัฐฯ จะยังคงเดินหน้าให้การสนับสนุนทางทหารต่อยูเครนต่อไป แม้ว่าสมาชิกพรรครีพับลิกันสายแข็งจะประสบความสำเร็จในการบีบให้กฎหมายงบฉบับชั่วคราวตัดงบช่วยเหลือเคียฟออกไปก็ตาม
ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ผู้นำสหรัฐฯ ได้คุยกับผู้นำจากแคนาดา เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น โปแลนด์ โรมาเนีย อังกฤษ อียู และนาโต้ รวมทั้ง รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศสด้วย
จอห์น เคอร์บี โฆษกฝ่ายความมั่นคงของทำเนียบขาว กล่าวว่า ไบเดนได้ยืนยันความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ในการสนับสนุนยูเครนต่อไป “ตราบนานเท่าที่จำเป็น เช่นเดียวกับที่ผู้นำอื่น ๆ ที่(ไบเดน)ได้พูดคุยด้วยยืนยันออกมา”
เคอร์บีเปิดเผยด้วยว่า ผู้นำทั้งหลายได้หารือประเด็นความพยายามในการจัดหาอาวุธยุทธภัณฑ์และระบบอาวุธต่าง ๆ ที่กรุงเคียฟต้องการใช้ในการปกป้องตนเอง และการเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบป้องกันทางอากาศของยูเครน ขณะที่ กองกำลังกรุงเคียฟเตรียมพร้อมรับการโจมตีเพิ่มเติมเข้าใส่โครงสร้างพื้นฐานของตนอยู่
กระดานความเห็น