องค์การสหประชาชาติ ประกาศในวันจันทร์ว่า การส่งออกธัญพืชของยูเครนน่าจะเริ่มต้นได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พร้อม ๆ กับประณามรัสเซียที่ยิงขีปนาวุธเข้าใส่เมืองท่าโอเดซา ของยูเครน ไม่กี่ชั่วโมงหลังลงนามในข้อตกลงเปิดทางการส่งออกผ่านเส้นทางในทะเลดำ
ฟาร์ฮาน ฮัค โฆษกยูเอ็น เปิดเผยว่า การส่งออกธัญพืชของยูเครนนั้นจะเดินทางออกจาก โอเดซา และเมืองท่าทะเลดำอีกสองแห่ง อันได้แก่ เชอร์โนมอร์สก และ ยูชนีย์ โดยระบุว่า “เราต้องทำให้แน่ใจว่า การเดินทางของเรือทั้งหมดนั้นจะเกิดขึ้นได้ในสภาพที่มีความปลอดภัยจริง”
อย่างไรก็ตาม เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า “ไม่มีจุดใดในพันธะ (การส่งออกธัญพืช) ที่รัสเซียลงนามที่นครอิสตันบูล ที่จะห้ามไม่ให้เราเดินหน้าปฏิบัติการพิเศษทางทหาร การทำล้ายล้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารและเป้าหมายทางทหารอื่น ๆ ต่อไป”
และในวันจันทร์เช่นเดียวกัน ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าวว่า การยิงโจมตีเป้าหมายทางทหารของยูเครนในเมืองโอเดซา “ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้สำหรับการส่งออกธัญพืชเลย”
ก่อนหน้านี้ รัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโจมตีดังกล่าวที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ แต่ออกมายอมรับในวันอาทิตย์ ว่า กองกำลังของมอสโกเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยิงขีปนาวุธที่ว่า
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งทำการส่งออกธัญพืชอีกครั้ง หลังยูเครนและรัสเซียลงนามในข้อตกลงเปิดทางการส่งออกเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งยูเอ็นและตุรกีช่วยทำหน้าที่คนกลางเจรจา และเรียกร้องให้รัสเซียสั่งกองเรือในทะเลดำยอมให้เรือขนส่งธัญพืชเดินทางออกสู่น่านน้ำที่ตนปิดกั้นมากว่า 5 เดือนได้อย่างปลอดภัย
หลังเกิดเหตุการโจมตีที่เมืองโอเดซา ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน วิจารณ์รัสเซียว่า ทำการที่เป็นภัยต่อข้อตกลงการส่งออกธัญพืช ขณะที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่า การโจมตีครั้งนี้ “ทำให้เกิดความสงสัยอย่างมาก ต่อความน่าเชื่อถือของการลงนามในข้อตกลงของรัสเซีย ทั้งยังบ่อนทำลายความพยายามของยูเอ็น ตุรกี และยูเครนในการนำส่งอาหารที่มีความสำคัญนี้ไปยังตลาดโลกด้วย”
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอเอฟพี-รอยเตอร์