กองทัพยูเครนเชื่อว่า รัสเซียกำลังเตรียมการโจมตีรุกหนักในขั้นถัดไปแล้ว หลังจากอาวุธวิถีไกลหลายชนิดที่ชาติตะวันตกนำส่งมาให้ยูเครน ช่วยให้กองทัพกรุงเคียฟสามารถยืนหยัดต่อต้านการรุกรานได้ดีขึ้น
ความเห็นของยูเครนในเรื่องนี้มีออกมา หลังมอสโกประกาศว่า กองกำลังของตนจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหาร “ในทุกพื้นที่ปฏิบัติการ” ให้หนักยิ่งขึ้นในเร็ว ๆ นี้
วาดิม สกิบิตสกี โฆษกหน่วยข่าวกรองของกองทัพยูเครน เปิดเผยว่า การที่รัสเซียเดินหน้าโจมตีกรุงเคียฟในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 40 คน โดยระบุว่า “ไม่ใช่แค่ขีปนาวุธที่มาจากทั้งอากาศและทางทะเลเท่านั้น ... เรายังเห็นการยิงโจมตีด้วยปืนใหญ่ตามแนวปะทะตลอดแนวด้วย และยังมีการใช้ยุทธวิธีโจมตีทางอากาศพร้อมกับการใช้เฮลิคอปเตอร์โจมตีอย่างแข็งขันด้วย”
สกิบิตสกี กล่าวเสริมว่า “เห็นได้ชัดเจนว่า (รัสเซีย) กำลังมีการเตรียมการต่าง ๆ อยู่ เพื่อการรุกรานในขั้นถัดไป”
ขณะเดียวกัน ในระหว่างการแถลงประจำวันเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ร้องขอให้ชาวยูเครนพยายามสร้าง “อธิปไตยทางอารมณ์” เพื่อต้านข้อมูลเท็จและโฆษณาชวนเชื่อที่รัสเซียและผู้อื่นนำเสนอผ่านสื่อต่าง ๆ ในเรื่องเกี่ยวกับยูเครน
ปธน.เซเลนสกี ระบุว่า “เราต้องไม่มัวแต่พึ่งพาสิ่งที่ศัตรูเฝ้าเสนอมา” และว่า ชาวยูเครน ต้อง “มีอำนาจที่จะรับรู้อย่างมีสติ เกี่ยวกับข้อมูล ข้อความ หรืออะไรก็ตาม ไม่ว่าจะมาจากที่ใด” ด้วย
ผู้นำรัสเซียยังกล่าวด้วยว่า รัสเซียพยายามสร้างความเศร้าโศกและทำการสังหารผู้คนบนแผ่นดินยูเครนมาตลอด 8 ปี หลังเกิดเหตุการยิงเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ตกลงที่พื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 2014
ทั้งนี้ ทีมสืบสวนนานาชาติกล่าวไว้ว่า เครื่องบินลำดังกล่าวถูกยิงตกโดยขีปนาวุธพื้นสู่อากาศของรัสเซีย ที่น่าจะถูกยิงโดยกลุ่มติดอาวุธที่รัสเซียหนุนหลังและยึดครองพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนอยู่
ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์