ยูเครนได้ร้องขอให้ออสเตรเลียส่งความช่วยเหลือในรูปของกระสุนและสรรพาวุธต่าง ๆ มาเพิ่ม หลังประสบความสำเร็จในการรุกกลับฝ่ายรัสเซียในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศที่ทำให้สามารถยึดอาณาเขตของตนคืนมาได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารให้ความเห็นว่า ยูเครนนั้นต้องการอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะในส่วนของกระสุนต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าที่มีอยู่เพื่อช่วยในการรักษาแนวรบที่เริ่มมีชัยมานี้ได้
ส่วนผู้ที่เฝ้าสังเกตการณ์ภาวะสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียกล่าวว่า อาวุธต่าง ๆ ที่นานาชาตินำส่งให้ยูเครนนั้นมีส่วนสำคัญอย่างมากในการรับมือฝ่ายตรงข้าม ขณะที่ เจ้าหน้าที่รัฐบาลกรุงเคียฟแสดงความขอบคุณต่อออสเตรเลียที่ส่งพาหนะส่วนบุคคลหุ้มเกราะ บุชมาสเตอร์ (Bushmaster) มาให้ตน โดยยานพาหนะที่ว่านี้ ได้รับการออกแบบมาให้มีตัวถังเป็นรูปทรงตัว ‘วี’ (V) ซึ่งช่วยกระจายแรงกระทบจากระเบิดได้มีประสิทธิภาพมากกว่าพาหนะหุ้มเกราะแบบปกติ
รายงานข่าวระบุว่า ยูเครนยังต้องการให้ออสเตรเลียนำส่งปืนใหญ่ฮาววิตเซอร์อีก 12 กระบอกมาให้ หลังรัฐบาลกรุงแคนเบอร์ราส่งปืนใหญ่น้ำหนักเบาดังกล่าวจำนวน 6 กระบอกมาให้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ริชาร์ด มาลส์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียให้ความเห็นเกี่ยวกับทิศทางการรบของยูเครนเพื่อต้านการรุกรานของรัสเซียว่า “ไม่มีสิ่งใดที่จะสร้างแรงบันดาลใจได้น้อยกว่านี้แล้ว”
มาลส์ ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อ Australian Broadcasting Corp ด้วยว่า รัฐบาลกรุงแคนเบอร์ราจะเดินหน้าสนับสนุนยูเครนต่อไป
นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ประเทศที่ให้ความช่วยเหลือยูเครนมากที่สุดคือ สหรัฐฯ โดยเพิ่งอนุมัติงบช่วยเหลือด้านอาวุธเพิ่มเติมอีก 675 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มูลค่าความช่วยเหลือทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 12,500 ล้านดอลลาร์แล้ว ขณะที่ รัฐบาลอื่น ๆ ที่ให้การสนับสนุนอย่างดี ได้แก่ โปแลนด์ที่อนุมัติความช่วยเหลือไปแล้ว 1,800 ล้านดอลลาร์ และอังกฤษที่มอบความช่วยเหลือให้แล้ว 1,300 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ออสเตรเลียได้นำส่งขีปนาวุธและอาวุธต่าง ๆ รวมทั้งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ยูเครน และดำเนินมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อนักการเมือง ผู้บัญชาการกองทัพและนักธุรกิจชาวรัสเซียหลายร้อยคนแล้ว ทั้งยังอนุมัติวีซ่าให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเกือบ 9,000 คนแล้วด้วย
ในส่วนของมูลค่าความช่วยเหลือด้านยุทโธปกรณ์จากออสเตรเลียนั้น ปัจจุบันอยู่ที่ราว 240 ล้านดอลลาร์ และนักการเมืองฝ่ายค้านได้เรียกร้องให้รัฐบาลทำตามแบบอย่างสหรัฐฯ ในการเพิ่มความช่วยเหลือด้วย
รายงานข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้ร้องขอให้นานาชาติให้การสนับสนุนด้านการเงินเพิ่มขึ้น โดยระบุว่า ต้นทุนในการดำเนินการรบแต่ละเดือนนั้นอยู่ที่ราว 5,000 ล้านดอลลาร์
- ที่มา: วีโอเอ