ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เซเลนสกี แถลงขอบคุณการสนับสนุนสหรัฐฯ ในการต้านรัสเซีย


US Secretary of State Antony Blinken meets Ukrainian President Volodymyr Zelenskyy, in Kyiv, Ukraine, Sept. 8, 2022.
US Secretary of State Antony Blinken meets Ukrainian President Volodymyr Zelenskyy, in Kyiv, Ukraine, Sept. 8, 2022.

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ระบุในแถลงการณ์ประจำวันว่า ได้หารือหลากประเด็นกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี โดยไม่ได้มีการประกาศล่วงหน้า รวมทั้งแสดงความขอบคุณต่อสหรัฐฯ สำหรับการสนับสนุนต่าง ๆ เพื่อรับมือกับการรุกรานของรัสเซียด้วย

ปธน.เซเลนสกี เปิดเผยด้วยว่า หนึ่งในหัวข้อที่มีการหารือกับ แอนโทนี บลิงคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็คือ การประกาศให้รัสเซียเป็น ‘รัฐก่อการร้าย’ โดยระบุในแถลงการณ์เมื่อช่วงค่ำของคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า “ความเป็นจริงทางกฎหมายนั้นต้องสอดรับกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจริงเสมอ และความเป็นจริงก็คือว่า รัสเซียได้กลายมาเป็นแหล่งต้นตอของการก่อการร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกแล้ว” และว่า “โลกต้องได้รับรู้ถึงสัญญาณอันชัดเจนว่า การก่อการร้ายของรัสเซียจะไม่ได้รับการให้อภัย”

นอกจากนั้น ผู้นำยูเครนยังระบุด้วยว่า “พื้นที่กว่าหนึ่งพันตารางกิโลเมตรของอาณาเขตของเรา ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กันยายน” และว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกขอบคุณทุกคนที่ทำให้เรื่องนี้เป็นจริงขึ้นมาได้ รู้สึกขอบคุณกองทัพ เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง และหน่วยปฏิบัติการพิเศษต่าง ๆ ที่ทำให้ธงยูเครนได้โบกสะบัดขึ้นอีกในเวลานี้”

ขณะเดียวกัน รมต.บลิงคน กล่าวในแถลงการณ์หลังการประชุมกับปธน.เซเลนสกีว่า “นักรบผู้กล้าที่ปกป้องยูเครนอยู่แถวหน้ายังคงต่อสู้ด้วยความกล้าหาญเพื่อเสรีภาพของประเทศตน” และยังยืนยันความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จะให้การสนับสนุนยูเครน “ตราบเท่าที่จะต้องเป็นไป” ด้วย

รายงานข่าวจากทีมข่าวที่ติดตามรมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า บลิงเคน “เดินทางเข้าไปในทำเนียบบริหารประธานาธิบดีที่มีการเสริมกำลังป้องกันอย่างแข็งแกร่ง ผ่านโถงทางเดินมืด ๆ มากมายที่มีกระสอบทรายปิดกั้นตามหน้าต่างเต็มไปหมด จนมาถึงห้องสีขาวที่ประดับประดาด้วยทองและโคมระย้าในที่สุด”

ปธน.เซเลนสกี ยังได้แสดงความขอบคุณต่อ “แรงสนับสนุนมหาศาล” ที่สหรัฐฯ ส่งให้ยูเครน และกล่าวสรรเสริญปธน.ไบเดนและสภาคองเกรสที่ช่วยให้ยูเครน “ได้นำอาณาเขตและผืนดินของเรากลับมา”

ในการเยือนยูเครนคราวนี้ รมต.บลิงเคน ประกาศนำส่งความช่วยเหลือระยะยาวมูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์ “เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้กับยูเครนและประเทศเพื่อนบ้านอีก 18 ประเทศ ซึ่งหลายแห่งเป็นพันธมิตรของนาโต้ รวมทั้งหุ้นส่วนด้านความมั่นคงที่มีความเสี่ยงจะเผชิญกับการรุกรานของรัสเซียในอนาคตด้วย”

แถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดด้วยว่า หากความช่วยเหลือก้อนนี้ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสแล้ว งบราว 1,000 ล้านดอลลาร์จากทั้งหมด 2,200 ล้านดอลลาร์จะถูกนำส่งให้ยูเครน ขณะที่ งบที่เหลือจะแบ่งไปให้ แอลเบเนีย บอสเนีย บัลแกเรีย โครเอเชีย สาธารณรัฐเช็ก เอสโตเนีย จอร์เจีย กรีซ โคโซโว ลัตเวีย ลิทัวเนีย มอลโดวา มอนเตเนโกร มาเซโดเนียเหนือ โปแลนด์ โรมาเนีย สโลวะเกียและสโลวีเนีย

ส่วนที่นิวยอร์กนั้น รัสเซียขอให้คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาติเปิดประชุมเพื่อที่จะวิพากษ์วิจารณ์ชาติตะวันตกที่นำส่งความช่วยเหลือทางทหารให้กับยูเครน เพื่อจุดประสงค์ที่ผู้แทนมอสโกระบุว่าเป็น การทำสงครามตัวแทน

วาสสิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า “นาโต้นั้นกำกับให้เคียฟเดินเข้าสู่การทำสงคราม” และว่า การที่หวังว่าอาวุธของชาติตะวันตกจะทำให้ยูเครนได้ชัยชนะในสนามรบนั้นเป็นเพียง “จินตนาการล้ม ๆ แล้ง” และ “อาวุธใหม่ ๆ จะไม่เปลี่ยนสมดุลของขุมพลัง และมีแต่จะยืดระยะเวลาแห่งความเจ็บปวดของรัฐบาลเซเลนสกีออกไปอีกเท่านั้น”

ทูตริชาร์ด มิลส์ ของสหรัฐฯ โต้กลับว่า กรุงมอสโกนั้นช่างกล้านักที่จะออกมาแนะประเทศต่าง ๆ หลีกทางให้รัสเซียหาทางทำลายรัฐสมาชิกของสหประชาชาติ โดยระบุว่า “สหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนประชาชนชาวยูเครนที่ทำการปกป้องชีวิต เสรีภาพและประชาธิปไตยของตน (และ)เราจะไม่หลบซ่อนการสนับสนุนในเรื่องนี้”

  • ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี
XS
SM
MD
LG