ลิ้งค์เชื่อมต่อ

 
ผู้นำยุโรปหนุนเซเลนสกี - ตบเท้าร่วมงานรำลึกสงครามรัสเซีย-ยูเครน ครบสามปี

ผู้นำยุโรปหนุนเซเลนสกี - ตบเท้าร่วมงานรำลึกสงครามรัสเซีย-ยูเครน ครบสามปี


Press conference after 'Support Ukraine' summit marking the third anniversary of the Russian invasion, in Kyiv
Press conference after 'Support Ukraine' summit marking the third anniversary of the Russian invasion, in Kyiv

ยูเครนเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดที่ผู้นำยุโรปและอีกหลายประเทศเข้าร่วมในวาระครบรอบสามปีของสงครามกับรัสเซีย อย่างไรก็ตามอนาคตข้างหน้ายังไม่ทราบว่ารัฐบาลเคียฟจะยังคงพึ่งพาสหรัฐฯ ที่เป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญที่สุดได้ต่อไปหรือไม่

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าประธานาธิบดียูเครนโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เป็น “เผด็จการ” ที่ไม่ได้เป็นที่นิยมของประชาชน และว่าเซเลนสกีต้องรีบตกลงให้เกิดสันติภาพ ไม่เช่นนั้นจะสูญเสียประเทศไป

ส่วนผู้นำยูเครนตอบโต้ว่าทรัมป์กำลังอยู่ใน “ฟองอากาศแห่งข้อมูลบิดเบือน”

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ​เริ่มการเจรจากับรัสเซียโดยตรงที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่เเล้ว โดยไม่มียูเครนและยุโรปเข้าร่วม ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ผู้นำยุโรปหนุนเซเลนสกี ร่วมงานรำลึกสงครามรัสเซีย-ยูเครน
please wait
  • Auto
  • 240p
  • 360p
  • 480p
  • 720p
  • 1080p

No media source currently available

0:00 3:31 0:00
  • Auto
  • 240p
  • 360p
  • 480p
  • 720p
  • 1080p

รัฐบาลกรุงวอชิงตันแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ถ้าเป็นความตกลงสันติภาพ สหรัฐฯ จะไม่ส่งทหารไปเพื่อการันตีความปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูเครนต้องการ ท่าทีดังกล่าวหมายความว่าภาระนี้จะตกเป็นของประเทศมหาอำนาจยุโรป ที่น่าจะเผชิญความยากลำบากหากไม่มีสหรัฐฯ ช่วยเหลือ

เซเลนสกีเคยเสนอต่อประเทศในยุโรปว่าควรสร้างกองทัพของตนเองขึ้นและเรียกร้องให้สหรัฐฯ เน้นผลเชิงปฏิบัติ และในวันศุกร์เขาต่อสายโทรศัพท์นับสิบครั้ง เพื่อคุยกับผู้นำยุโรปเป็นหลักเพื่อที่จะวางแผนสำหรับอนาคต

เซเลนสกีกล่าวที่งานประชุมสุดยอดที่กรุงเคียฟในวาระครบรอบสามปีของสงครามว่า “สามปีหลังจากการเริ่มต้นของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ‘สามวัน’ ของปูติน ยูเครนยังคงมีชีวิตและต่อสู้ต่อไป และประเทศของเรามีเพื่อนเพิ่มขึ้นจากทั่วโลก กว่าที่เคย"

สำหรับผู้เข้าร่วมประชุมสุดยอดครั้งนี้ ประกอบด้วย เออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และอันโตนิโอ คอสตา ประธานคณะมนตรียุโรป

นอกจากนั้นยังมีผู้นำจากประเทศแคนาดา เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนีย ฟินเเลนด์ นอร์เวย์ สเปน และสวีเดน

ส่วนผู้นำประเทศที่เข้าร่วมผ่านระบบออนไลน์ ประกอบด้วยจากแอลเบเนีย อังกฤษ โครเอเชีย สาธารณรัฐเช็ก เยอรมนี ญี่ปุ่น มอลโดวา เนเธอร์เเลนด์ โปแลนด์ ​สวิตเซอร์เเเลนด์และตุรกี

ไม่มีสัญญาณโดยทันทีว่าสหรัฐฯ ​ส่งตัวเเทนเข้าร่วมหรือไม่ ตามรายงานของรอยเตอร์

ผู้ร่วมงานที่เดินทางไปยูเครน เเสดงการรำลึกทหารที่เสียชีวิตในสงคราม ด้วยการยืนสงบนิ่ง ที่จตุรัสใจกลางกรุงเคียฟ ที่ประดับด้วยธง

ในเวลาต่อมา มีเสียงไซเรนเตือนการบุกทางอากาศดังขึ้น แต่ไม่ได้เกิดการโจมตีโดยขีปนาวุธเเต่อย่างใด

เออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป พร้อมด้วยประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี และนายกรัฐมนตรีเเคนาดา จัสติน ทรูโด
เออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป พร้อมด้วยประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี และนายกรัฐมนตรีเเคนาดา จัสติน ทรูโด

ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวผ่านเเพลตฟอร์ม X ว่า “ในการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดนี้ มันไม่ได้เป็นเพียงการอยู่หรือไปของยูเครนเท่านั้น แต่มันเป็นชะตากรรมของยุโรปด้วย”

ประชาชนยูเครนเสียชีวิตไปแล้วหลายพันคน และกว่าหกล้านคนกลายเป็นผู้ลี้ภัยในต่างเเดน ตั้งเเต่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน สั่งให้กองทัพบุกยูเครนทางบก ทางน้ำและทางอากาศ

สงครามครั้งนี้เป็นความขัดเเย้งที่เกิดการเสียชีวิตและเลือดเนื้อครั้งใหญ่ที่สุดตั้งเเต่สงครามโลกครั้งที่สอง

ความสูญเสียที่เกิดกับกองทัพยูเครนไม่ได้ถูกเปิดเผยตัวเลขออกมา แต่ฝ่ายโลกตะวันตกประเมินว่าสงครามทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมนับเเสนคนในแต่ละฝ่ายของคู่ขัดเเย้ง

  • ที่มา: รอยเตอร์

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG