ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศสนับสนุนร่างกฎหมายโดยวุฒิสมาชิกรีพับลิกันที่จะลดจำนวนคนต่างด้าวที่ไม่ใช่แรงงานทักษะสูงซึ่งต้องการเดินทางเข้าสหรัฐฯ
ร่างกฎหมายนี้ซึ่งมีชื่อว่า Reforming American Immigration for a Strong Economy หรือ RAISE เสนอให้มีการให้คะแนนผู้มีความเหมาะสมได้วีซ่าตามคุณสมบัติ
ผลของกฎหมายนี้หากมีการบังคับใช้ คืออาจทำให้จำนวนผู้ได้ใบเขียวหรือ green card ที่ให้สิทธิ์พำนักถาวรในสหรัฐฯ จากหนึ่งล้านคนต่อปีในปัจจุบัน เหลือห้าแสนคน
วิธีการวัดคุณสมบัติในระบบให้คะแนนความเหมาะสม รวมถึงการใช้ภาษาอังกฤษและการแสดงให้เห็นว่าผู้ยื่นของใบเขียวจะสามารถเลี้ยงดูตนเองได้ในสหรัฐฯ โดยไม่ใช่เข้ามาเพื่อรับสวัสดิการสังคม
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวขณะพบสื่อคู่กับ ทอม ค็อตตอน และ เดวิด เพอร์ดิว สองวุฒิสมาชิกที่ร่วมกันร่างกฎหมาย RAISE ว่ากฎหมายนี้จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจให้กับสหรัฐฯ
ที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาว สตีเฟน มิลเลอร์ บอกนักข่าวว่า แนวทางของกฎหมาย RAISE จะสามารถช่วยบรรเทาแรงกดดันที่ทำให้ค่าแรงในสหรัฐฯ ไม่สูงขึ้นได้ เพราะแรงงานที่ไม่ได้มีทักษะสูงจากต่างประเทศรับทำงานในสหรัฐฯ ด้วยค่าแรงที่ต่ำ
เขาบอกว่าแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานที่คนอเมริกันเคยทำในอดีต และทำให้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจตกเป็นของบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องการต้นทุนแรงงานต่ำ แต่ไม่ได้ทำให้ชนชั้นกรรมาชีพชาวอเมริกันมีฐานะดีขึ้น
สตีเฟน มิลเลอร์ กล่าวถึงระบบปัจจุบันว่าถูกใช้เป็นช่องให้คนต่างด้าวนำญาติเข้ามาอยู่สหรัฐฯ เป็นทอดๆ เพราะ green card เป็นเส้นทางสู่การได้สัญชาติอเมริกัน และผู้ได้สัญชาติสามารถสมัครขอใบเขียวให้กับสมาชิกในครอบครัวต่อได้เป็นทอดๆ กันไป
เขาจึงเรียกรูปแบบการได้สิทธิ์พำนักถาวรในอเมริกาว่าเป็น "การอพยพแบบลูกโซ่" สู่สหรัฐฯ
กฎหมายนี้ซึ่งต้องผ่านวุฒิสภาสหรัฐฯ เสียก่อน ได้รับแรงต้านจากสมาชิกพรรครีพับลิกันเองบางคนไปเรียบร้อยแล้ว
วุฒิสมาชิก ลินซี่ย์ แกรม จากรัฐเซาธ์แคโรไลน่า กล่าวว่า หากร่างกฎหมาย RAISE มีผลบังคับใช้จริง จะสร้างผลกระทบที่น่ากังวลต่อเศรษฐกิจในรัฐของตนซึ่งพึ่งพาแรงงานต่างด้าว
นักเคลื่อนไหวจากกลุ่ม Leadership Conference on Civil and Human Rights วานิตา กุปต้า ซีอีโอขององค์กรดังกล่าว บอกว่า ประเทศอเมริกาเป็นดินแดนแห่งคนต่างด้าว และร่างกฎหมาย RAISE ขัดกับค่านิยมพื้นฐานของประเทศนี้
อย่างไรก็ตาม รอย เบ็ค แห่งองค์กรด้านโยบายสาธารณะ Numbers USA กล่าวว่า ที่ผ่านมาการหลั่งไหลอย่างมหาศาลของคนงานต่างด้าวเข้าสหรัฐฯ สร้างการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมต่อแรงงานอเมริกัน
อาจารย์ ฟรานซิส บัคลีย์ จากมหาวิทยาลัย จอร์จ เมสัน ในรัฐเวอร์จิเนียบอกว่า แนวทางกฎหมายลักษณะนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางในแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศที่มีสัดส่วนคนต่างด้าวมากกว่าสหรัฐฯ คืออยู่ที่ร้อยละ 20 เทียบกับ 13 เปอร์เซ็นต์ ในอเมริกา
เขากล่าวว่า กฎหมายคนต่างด้าวในแคนาดาไม่ได้ถูกมองว่าเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองเท่าในสหรัฐฯ เพราะชาวแคนาดาไม่คิดว่าพวกตนเป็นเหยื่อของระบบที่จ้องจะเอาเปรียบประชาชน
(รายงานโดย Peter Heinlein / รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียง )
