วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันสองคนกำลังทำงานร่วมกับทำเนียบขาวเพื่อร่างกฎหมายคนต่างด้าวที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญต่างๆ
สื่อรายงานว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจัดทำโดยวุฒิสมาชิก ทอม ค็อตตอน และเดวิด เพอร์ดู ต้องการลดจำนวนคนเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จาก 1 ล้านคนต่อปีให้เหลือ 5 แสนคนเท่านั้น
วุฒิสมาชิกทั้งสองคนมีแนวความคิดว่าควรผลักดันให้เลิกการสุ่มให้วีซ่าแบบล็อตเตอรี่ เพิ่มเงื่อนไขในการได้รับใบเขียวเพื่อการเป็นผู้อาศัยพำนักถาวรในอเมริกา และลดการให้วีซ่าสมาชิกครอบครัวของผู้ที่ได้สิทธิ์ยื่นขอตามหลักเกณฑ์ปัจจุบัน
คิม รูเบ็น นักวิจัยอาวุโสแห่งสถาบัน Urban Institute กล่าวว่า เธอกังวลต่อแนวทางที่ ส.ว. ทั้งสองคนเสนอ เพราะคนต่างด้าวจะเป็นกำลังสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทอม ค็อตตอน และเดวิด เพอร์ดู สองวุฒิสมาชิกที่ผลักดันเรื่องนี้ กล่าวว่า การหลั่งไหลของแรงงานที่มีทักษะเพียงขั้นพื้นฐาน เป็นปัจจัยหลักปัจจัยหนึ่งที่กดดันค่าแรงในภาคแรงงานสหรัฐฯ ดังนั้นคนอเมริกันจึงยังได้รับค่าแรงต่อชั่วโมงไม่สูงเท่าที่ควรจะเป็น
โจ กุสซาดี ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารมวลชนขององค์กร Californians for Population Stabilization เห็นด้วยกับนโยบายของสอง ส.ว. รีพับลิกัน เขาหวังร่างกฎหมายดังกล่าวจะทำให้เกิดการพูดคุยที่ด้วยเหตุผล และข้อมูลในสภาเกี่ยวกับผลพวงของการใช้นโยบายคนเข้าเมืองในรูปแบบเดิมมาเป็นเวลาหลายสิบปี
นักวิเคราะห์เศรษฐกิจกล่าวว่า การเติบโตของภาคแรงงานที่แข็งแกร่งในเดือนมิถุนายน ขัดแย้งกับการอ้างว่าคนต่างด้าวแย่งงานไปจากคนอเมริกัน
รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ อเล็กซานเดอร์ อะคอสตา กล่าวในแถลงการณ์ว่า การเติบโตของการจ้างงานและค่าแรงส่งผลโดยตรงต่อครอบครัวชาวอเมริกัน
คิม รูเบ็น แห่งสถาบัน Urban Institute บอกว่าคนอเมริกันวัยผู้ใหญ่ ที่อยู่ในกลุ่ม Baby Boomer และ Generation X มีลูกน้อยลง ดังนั้นคนต่างด้าวจึงเป็นแรงหนุนที่แทนส่วนที่ภาคแรงงานต้องการ
ผู้ประกอบการบางรายอย่างเช่น เบหยาด วินธร็อป ซีอีโอของ American Giant ผู้ผลิตเสื้อผ้าที่ผลิตในสหรัฐฯ 100 เปอร์เซ็นต์ กล่าวกับสื่อวิทยุที่กรุงวอชิงตันไม่นานนี้ว่า หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดของบริษัทคือการไม่มีคนอเมริกันมากพอสำหรับงานบางประเภท เช่น เก็บฝ้าย
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าทางแก้ไขไม่ใช่การนำคนต่างชาติมาทำงานในประเทศ แต่เป็นการขึ้นค่าแรงเพื่อดึงดูดงานอเมริกันให้เข้ามาทำงานประเภทดังกล่าว
(รายงานโดย Aline Barros / รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียง)
