โฆษกทำเนียบขาวแถลงข่าวย้ำว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีหลักฐานการลงคะแนนอย่างผิดกฎหมายในการเลือกตั้งที่ผ่านมาจนทำให้ ปธน.ทรัมป์ พ่ายแพ้ในผลการนับคะแนนรวมหรือแบบประชานิยมเกือบ 2 ล้านคะแนน
นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิดีสหรัฐฯยังคงเชื่อว่ามีการลงคะแนนอย่างผิดกฎหมายหลายล้านคนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่ากลุ่มบุคคลเหล่านั้นเป็นแรงงานที่ไม่มีหลักฐานการทำงานรองรับและส่งผลให้เขาต้องพ่ายแพ้คะแนนเลือกตั้งแบบประชานิยมหรือ Popular Vote ต่อนางฮิลลารี คลินตัน
นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว ยืนยัน ในการแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่านายโดนัล ทรัมป์ยังคงเชื่อในเรื่องนี้ และบอกว่ามีหลักฐานและข้อมูลอยู่ในมือของประธานาธิบดี ทรัมป์ แต่หลังจากที่ถูกผู้สื่อข่าวระดมซักถามกลับไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มถึงหลักฐานดังกล่าว
เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งของสหรัฐฯ ผู้ที่วิเคราะห์ถึงผลการลงคะแนนของประชาชนในวันที่ 8 พฤศตจิกายน กล่าวว่า แทบจะไม่มีสัญญานใดๆที่ชี้ให้เห็นว่ามีการโกงการเลือกตั้ง และแน่นอนว่าไม่มีการโกงการเลือกตั้งในระดับล้านเสียงตามที่นาย ทรัมป์ ตั้งคำถาม
ขณะที่นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรณ์จากพรรคริพับลิกัน กล่าวว่า ไม่เห็นหลักฐานใดๆในการโกงการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ด้านนายมิทช์ แมคคอนแนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากริพับลิกัน กล่าวว่า ตามปกติแล้วการโกงการเลือกตั้งนั้นอาจเกิดขึ้นจริง แต่จะเกิดขึ้นในระดับมากน้อยเพียงใด เป็นสิ่งที่ต้องค้นหาคำตอบ
ด้านนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้่งจากระบบคณะผู้เลือกตั้ง หรือ Electoral College ได้คะแนนรวมจากประชาชน หรือ Popular Vote มากกว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ เกือบ 3 ล้านเสียง
