แม้การเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เขตเลือกตั้งที่ 18 ของรัฐเพนซิลเวเนีย ที่จบลงไปเมื่อวันอังคาร ยังไม่มีการประกาศผลอย่างเป็นทางการออกมา แต่ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตก็ได้ออกมาประกาศชัยชนะแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่ลดลงของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ในพื้นที่ซึ่งถือเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรครีพับลิกัน และนักวิเคราะห์เชื่อว่าอาจส่งผลต่อการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภากลางเทอม ในช่วงปลายปีนี้ด้วย
นายคอนนอร์ แลมบ์ (Conor Lamb) ผู้สมัครชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เขตเลือกตั้ง 18 ของรัฐเพนซิลเวเนีย ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แม้ว่าผลการเลือกตั้งขั้นสุดท้ายจะยังไม่ประกาศออกมาก็ตาม
ถึงกระนั้น นายริค แซคโคน (Rick Saccone) คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ก็ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ จนกว่าจะสิ้นสุดการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ ในการเลือกตั้งที่คู่คี่สูสีที่สุดครั้งหนึ่ง
เวลานี้ นายแลมบ์ ซึ่งลงสมัครสมัยแรก มีคะแนนนำนายแซคโคนอยู่เพียงไม่กี่ร้อยคะแนน โดยผลนับคะแนนล่าสุด ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตนำอยู่ 49.8% ต่อ 49.6% จากผู้ออกเสียงทั้งหมด 224,000 คน
อย่างไรก็ตาม บัตรคะแนนส่วนที่เหลือซึ่งเป็นของผู้ที่ไม่สามารถไปลงคะแนน ณ จุดเลือกตั้ง และบัตรลงคะแนนจากต่างประเทศนั้น จะยังไม่สามารถรู้ผลได้จนกว่าจะถึงสัปดาห์หน้าเป็นอย่างน้อย
สนามเลือกตั้งเขต 18 รัฐเพนซิลเวเนียนี้ ถือเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรครีพับลิกัน ที่ครองที่นั่ง ส.ส. ในเขตนี้มาตลอด 15 ปี และ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็เคยรับชัยชนะที่เขตนี้เหนือนางฮิลลารี คลินตัน ถึงเกือบ 20% ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016
ในการหาเสียงที่ผ่านมา นายแซคโคน บอกว่าตนคือ Wingman ผู้ที่จะช่วย ปธน.ทรัมป์ ทำนโยบายต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วง หากได้เข้าไปนั่งในสภาฯ ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ ก็เดินทางไปช่วยนายแซคโคนหาเสียงก่อนวันเลือกตั้งเช่นกัน โดยบอกว่าผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันผู้นี้มีความสำคัญในการส่งเสริมนโยบายของตน
ถึงกระนั้น ผลการเลือกตั้งที่ออกมานี้ ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับการเลือกตั้งซ่อมในรัฐเวอร์จิเนีย และรัฐอะลาบามา เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งพรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะนั้น ก็อาจชี้ให้เห็นถึงงานที่ยากขึ้นของพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภากลางเทอม ในช่วงปลายปีนี้ ตามความเห็นของนายแลร์รี ซาบาโต้ (Larry Sabato) นักวิเคราะห์จาก University of Virginia
แลร์รี ซาบาโต้ กล่าวว่า เวลานี้กระแสต่อต้าน ปธน.ทรัมป์ ในหมู่คนอเมริกันนั้น ร้อนแรงไม่ต่างจากปีสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งของอดีตประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน และอาจมีผลให้เกิดการพลิกผันของคะแนนเสียงไปให้กับพรรคเดโมแครตมากกว่าที่คาดคิดกันไว้ ในการเลือกตั้งกลางเทอมตอนเดือน พ.ย.
ขณะที่นายไมเคิล บาโรน (Michael Barone) นักวิเคราะห์แห่งสถาบัน American Enterprise ชี้ว่า ตามปกติ พรรคของประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง มักจะได้คะแนนเสียงไม่ดีนักในการเลือกตั้งกลางเทอมอยู่แล้ว
นักวิเคราะห์ผู้นี้ระบุว่า พรรคของประธานาธิบดีมักจะต้องรับผลจากการบริหารของประธานาธิบดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพรรครีพับลิกันครองที่นั่งทั้งสองสภาฯ เช่นนี้
ด้านนักวิเคราะห์ แลร์รี ซาบาโต้ บอกว่า การที่พรรคเดโมแครตสามารถเข้าไปคว้าชัยชนะออกมาจากพื้นที่ที่เคยเป็นของพรรครีพับลิกัน เป็นการส่งสัญญาณไปยังสมาชิกพรรครีพับลิกันในเขตเลือกตั้งอื่นๆ ทั่วประเทศที่เป็นของพรรครีพับลิกัน ว่าอย่าได้วางใจในการเลือกตั้งปลายปีนี้
หากในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาฯ กลางเทอม พรรคเดโมแครตได้ที่นั่งเพิ่ม 24 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร และ 2 ที่นั่งในวุฒิสภา พรรคเดโมแครตจะเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมากแทนพรรครีพับลิกัน
(ผู้สื่อข่าว Jim Malone รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)