ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ทรัมป์-ไบเดน เจาะฐานเสียง ‘ติ๊กตอก’ สร้างความต่างในเกมเลือกตั้งหรือไม่


สัญลักษณ์โซเชียลมีเดีย ติ๊กตอก และธงชาติสหรัฐฯ (ที่มา:Reuters/แฟ้มภาพ)
สัญลักษณ์โซเชียลมีเดีย ติ๊กตอก และธงชาติสหรัฐฯ (ที่มา:Reuters/แฟ้มภาพ)

ในอดีต ทั้งประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างเห็นตรงกันเรื่องการห้ามใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ ‘ติ๊กตอก’ (TikTok) จากจีน แต่ทั้งคู่กลับหันมาใช้งานพื้นที่นี้ในช่วงการเลือกตั้งผู้นำสูงสุด

ทรัมป์ สร้างบัญชีติ๊กตอก (TikTok) ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่วนไบเดนนั้นเข้าสู่พื้นที่นี้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

โซเชียลมีเดียสัญชาติจีนที่ก่อนหน้านี้มักถูกพูดถึงในทางที่ไม่ดี กลับกลายเป็นเครื่องมือที่ทั้งคู่หันมาใช้งานในช่วงเวลาการแข่งขันทางการเมืองที่มีเก้าอี้ผู้นำสูงสุดของสหรัฐฯ เป็นเดิมพัน

เท็ดดี กอฟฟ์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทการสื่อสารการตลาด Precision Strategies กล่าวว่า “โลกของโซเชียลมีเดียทั้งใบเปลี่ยนไปแล้วในช่วงสี่ปีระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่แล้วกับครั้งนี้ นี่คือครั้งแรกที่ติ๊กตอกทรงพลังอย่างที่มันเป็นอยู่ตอนนี้”

ก่อนหน้านี้ ทั้งไบเดนและทรัมป์ต่างเห็นด้วยกับการห้ามการใช้งานติ๊กตอกในสหรัฐฯ โดยให้เหตุผลเรื่องความกังวลด้านความมั่นคง สืบเนื่องจากสายสัมพันธ์ระหว่างบริษัทเจ้าของสื่อสังคมออนไลน์กับรัฐบาลจีน

กระนั้น การที่สหรัฐฯ มีผู้ใช้งานติ๊กตอกที่ 170 ล้านคน และในจำนวนนั้น มี 44% ที่มีอายุ 18-29 ปี จึงทำให้ติ๊กตอกเป็นพื้นที่แห่งโอกาสในการชนะใจฐานเสียงอายุน้อย

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาล่าสุดพบว่า แม้ชาวอเมริกันจะรับข่าวผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น แต่การรับข่าวสาร ไม่ใช่เหตุผลหลักในการเข้ามาไถฟีด

เอลิซา เชียร์เรอร์ นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันคลังสมอง Pew Research Center กล่าวว่า “เมื่อเราถามว่า อะไรเป็นเหตุผลให้คุณ (ผู้ตอบแบบสอบถาม) หันมาที่พื้นที่ตรงนี้ ฉันคิดว่าความบันเทิงเป็นเหตุผลหลักของทุกคน โดยเฉพาะกับติ๊กตอก ที่ความบันเทิงเป็นเหตุผลส่วนใหญ่ และข่าวไม่ใช่เหตุผลหลักที่คนจะเข้ามา”

ผู้ใช้งานติ๊กตอกเข้าถึงข่าวแบบอ้อม ๆ ผ่านโพสต์ความคิดเห็นหรือโพสต์ขำขันของผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างจากเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมในแง่ที่ว่า โพสต์ที่เห็นในติ๊กตอกนั้นไม่ได้มาจากเพื่อนหรือครอบครัว

เชียร์เรอร์กล่าวว่า ข่าวส่วนใหญ่ที่ได้รับจากติ๊กตอกนั้นมาจากคนที่ผู้ใช้งานไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว และระบบอัลกอริธึมของมัน ป้อนข้อมูลให้ผู้ใช้มากไปกว่าสิ่งที่พวกเขาติดตามเป็นการเฉพาะ

กอฟฟ์ จาก Precision Strategies ระบุว่า เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ สำหรับบัญชีโซเชียลมีเดียเดียวที่จะได้รับความสนใจจำนวนมากในภูมิทัศน์ของโซเชียลมีเดียที่แออัดและวุ่นวาย แม้ว่าบัญชีนั้นจะเป็นของประธานาธิบดี หรืออดีตประธานาธิบดีก็ตาม

ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดรายนี้กล่าวด้วยว่า สิ่งที่สำคัญ คือการเข้าถึงและสร้างความนิยมกับเหล่าผู้มีชื่อเสียงหรือความน่าเชื่อถือในโซเชียลมีเดียหรือ ‘อินฟลูเอนเซอร์’ เพื่อให้คนเหล่านั้นช่วยกระจายข้อความที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้ใช้งานคนอื่น

กอฟฟ์ระบุว่า “สิ่งที่คุณต้องทำต้องทำคือการหาทางสื่อสารข้อความเพื่ออธิบายว่า ทำไมตัวเองจะเป็นผู้นำประเทศที่ดีกว่า (คู่แข่งคนอื่น ๆ) ในแบบที่ฟังขึ้นและไม่ผลักผู้คนออกไป บนแพลตฟอร์มนี้ที่คนเข้ามาหาความสนุก พวกเขาไม่ได้เขามาเพื่อฟังโฆษณาการเมืองของคุณ”

  • ที่มา: วีโอเอ

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG