ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้พูดถึงความกังวลที่เกิดขึ้นหลังผลงานการดีเบทที่ย่ำแย่ของตนในคืนวันพฤหัสบดี ท่ามกลางการเรียกร้องจากผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตให้ไบเดนถอนตัวจากศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่นักวิเคราะห์มองว่าไบเดนยังน่าจะได้การรับรองให้เป็นตัวแทนของพรรค
เพียงหนึ่งวันหลังจากที่ขึ้นเวทีดีเบทกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็ได้ออกหาเสียงในเมืองราลีย์ รัฐนอร์ธแคโรไลนา โดยผู้นำสหรัฐฯ แสดงความกระฉับกระเฉงเมื่อพูดถึงผลงานการดีเบท และความกังวลที่มีต่ออายุของตัวเอง
ไบเดนกล่าวว่า “ผมอาจจะไม่ได้พูดจาราบรื่นอย่างที่เคย ผมดีเบทไม่ดีอย่างที่เคย แต่ผมรู้ว่าจะต้องทำหน้าที่ผู้นำสหรัฐฯ อย่างไร ผมรู้ว่าจะทำยังไงให้งานสำเร็จลุล่วง ผมรู้ในสิ่งที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนก็รู้ว่า ถ้าเราถูกชนให้ล้มลง เราก็ต้องลุกขึ้นมา”
บนเวทีดีเบท สิ่งหนึ่งที่เป็นที่ประจักษ์ต่อผู้ชม คือ การพูดจาตะกุกตะกัก และบางครั้งก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ของไบเดน
ไมเคิล คิมเมจ (Michael Kimmage) ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัย The Catholic University of America ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า
“สิ่งที่โดดเด่นที่สุดจากค่ำคืนนั้น คือโทนเสียงของไบเดน ที่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆไม่มั่นใจ และอ่อนแรง เป็นหน้าที่ของไบเดนที่จะต้องตอบคำถามด้วยคำตอบที่คนฟังสามารถติดตามได้ง่ายและรู้เรื่อง แต่ไบเดนทำอย่างนั้นได้แค่ครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของการดีเบทไม่ได้เป็นไปอย่างนั้น และก็มีหลายต่อหลายครั้งที่เขาลืมไปเลยว่าจะพูดอะไร”
ไบเดน ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตในวัย 81 ปีที่จะลงชิงชัยเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ กล่าวว่า ตนมีอาการเจ็บคอ อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับอายุที่สูงวัยของผู้นำสหรัฐฯ ยิ่งทวีคูณมากยิ่งขึ้นหลังจากดีเบทในคืนนั้น
มาร์โค รูบิโอ (Marco Rubio) สมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน ได้ออกมาตั้งคำถามถึงความสามารถของไบเดนในการเป็นผู้นำของประเทศ
รูบิโอกล่าวว่า “คุณต้องถามตัวเองแล้วล่ะว่า ใครเป็นคนตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ในแต่ละวันในทำเนียบขาว เพราะผมไม่คิดว่า คนที่คุณได้เห็นในคืนนี้ (ซึ่งหมายถึงประธานาธิบดี ไบเดน) จะสามารถดูแลรายละเอียดต่าง ๆ ของการบริหารประเทศได้ ณ เวลานี้”
ด้านผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตที่มีชื่อเสียง ต่างก็ออกมาแสดงความอึดอัดทางช่องทางโซเชียลมีเดียเช่นกัน รวมทั้ง มาเรีย ชไรเวอร์ (Maria Shriver) ที่โพสต์ข้อความใน เอ็กซ์ หรือ ทวิตเตอร์ ว่า “เกิดความแตกตื่นหวั่นวิตกในพรรคเดโมแครต”
กองบรรณาธิการของสื่ออเมริกัน The New York Times ตีพิมพ์บทความแสดงทัศนะว่า “ในการที่จะรับใช้ประเทศ ประธานาธิบดีไบเดน ควรถอนตัวออกจากศึกชิงชัยประธานาธิบดีสหรัฐฯ”
อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ไบเดนยังไม่ออกจากการแข่งขันนี้ด้วยตัวเอง เขาก็ยังจะได้รับรองให้เป็นผู้แทนของพรรค ในการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครต (Democratic National Convention) ที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้
แต่หากไบเดนยอมที่จะถอนตัว คนที่อาจจะก้าวเข้ามาเป็นผู้แทนของพรรคก็อาจจะเป็น ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซัม (Gavin Newsom) อย่างไรก็ตาม นิวซัม ยังคงออกมาชื่นชมผลงานดีเบตของไบเดน
“นี่ไม่ใช่เป็นเรื่องของสไตล์ แต่นี่เป็นเรื่องการสร้างผลลัพธ์ให้กับชาวอเมริกัน และในคืนนี้ ผมคิดว่าโจ ไบเดน ไม่เพียงแต่จะยืนหยัดเท่านั้น เขายังย้ำเตือนคนดูถึงผลงานและวิสัยทัศน์ของอนาคตของอเมริกาอีกด้วย” ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าว
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า ไบเดนยังสามารถกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง
ฮาวเวิร์ด สตอฟเฟอร์ (Howard Stoffer) ศาสตราจารย์ด้านความมั่นคงแห่งชาติ มหาวิทยาลัย University of New Haven กล่าวว่า “ปกติแล้ว ประธานาธิบดีที่กำลังอยู่ในตำแหน่งมักจะทำได้ไม่ดีนักในการดีเบทรอบแรก เพราะพวกเขาจะไม่ค่อยชินกับการหาเสียงหรือสื่อสารกับคนกลุ่มใหญ่ ในขณะที่ทรัมป์ชินกับการพูดหาเสียง เราต้องรอดูว่าไบเดนจะสามารถทำอย่างนั้นได้ไหม ถ้าทำได้ เขาก็จะกลับมาสู้ และหวังว่าในการดีเบทครั้งที่สองในเดือนกันยายนเขาจะทำได้ดีขึ้น”
แต่ถึงตอนนั้น ก็จะสายเกินไปที่พรรคเดโมแครตจะเลือกผู้แทนลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ โดยการดีเบทครั้งที่สองจะมีขึ้นในวันที่ 10 ก.ย. และมี ABC News เป็นผู้ดำเนินรายการ
ที่มา: VOA
กระดานความเห็น