ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เศรษฐาเจรจากลุ่มทุนดูไบ-จีน ถึงการสร้างตึกสูงที่สุดในโลกที่ไทย


นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน

กลุ่มการลงทุนที่นำโดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์จากดูไบ กำลังหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะสร้างตึกที่อาจสูงที่สุดเป็นสถิติใหม่ของโลกในประเทศไทย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

นายกรัฐมนตรีของไทย เศรษฐา ทวีสิน พบกับกลุ่มบริษัทของตะวันออกกลางและจีน ซึ่งรวมถึง อีมาร์ กรุ๊ป (Emaar Group), บรอด กรุ๊ป (Broad Group) และวาโทน กรุ๊ป (Vatone Group) และหารือกันถึงแผนที่จะ "สร้างตึกที่สูงที่สุดในโลกในไทย" โดยผู้นำไทยได้พูดถึงเรื่องนี้บนเเพลตฟอร์ม X

บลูมเบิร์กรายงานว่าตึกที่อาจได้รับการพัฒนาขึ้นจะมีวัตถุประสงค์การใช้หลายรูปแบบ เช่นโรงเเรม ศูนย์การเงินการธนาคาร ห้างสรรพสินค้า และเเหล่งความบันเทิง

อีมาร์ กรุ๊ป เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากโครงการ 'เบิร์จ คาลิฟา' ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก ที่นครดูไบ

ตึก 'เบิร์จ คาลิฟา' ที่ดูไบ
ตึก 'เบิร์จ คาลิฟา' ที่ดูไบ

โมฮาเหม็ด อะลับบาร์ ผู้ก่อตั้งอีมาร์กรุ๊ป กล่าวว่าโครงการนี้จะถูกพัฒนาขึ้นโดยกลุ่มนักลงทุน แทนที่จะเป็นบริษัทมหาชน โดยผู้ลงทุนจะรวมถึงเขาเองเป็นการส่วนตัว

เขากล่าวว่า การหารือเรื่องตึก "ที่สูงมาก ๆ" ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น

นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวในข้อความบนเเพลตฟอร์ม X ว่าโครงการนี้ "จะสร้างมูลค่าการลงทุน และดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก จาก "แหล่งท่องเที่ยวใหม่แบบ man-made" โดยทางกลุ่มบริษัทฯ​ จะศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน เพื่อเสนอแผนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปครับ"

โฆษกรัฐบาลไทย ชัย วัชรงค์ กล่าวว่า กลุ่มนักลทุนนี้สนใจที่จะร่วมมือกันใน 'เมกะโปรเจค' นี้ในกรุงเทพฯ โดยเขาบอกกับบลูมเบิร์กว่า นายกฯ เศรษฐาเสนอว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่โครงการนี้สูงกว่าตึกที่ดูไบ ซึ่งผู้ร่วมหารือเหล่านี้ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศในเดือนกันยายน เศรษฐา ทวีสิน เดินหน้าชักชวนบริษัทต่างชาติและนักลงทุนนอกประเทศให้มาลงทุนโดยตรงในประเทศไทย ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่มีการเติบโตช้ากว่าประเทศร่วมภูมิภาคหลายประเทศ

เท่าที่ผ่านมานายกฯ เศรษฐา พบกับผู้บริหารระดับสูงสุดของบริษัทกว่า 60 แห่ง เพื่อชวนให้พวกเขาลงทุนมายังภาคเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง ในความพยายามกระตุ้นการเติบโตของจีดีพีไทย ที่เฉลี่ยอยู่ที่ไม่ถึง 2% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตามรายงานของบลูมเบิร์ก

ผู้นำไทยกล่าวว่า โครงการตึกระฟ้านี้อาจสร้างจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทำรายได้ให้ไทย คิดเป็น 12% ของขนาดเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยเติบโตกว่า 40% ปีนี้มาอยู่ที่ประมาณ 11 ล้านคน ส่วนหนึ่งได้เเรงหนุนการโครงการยกเว้นวีซ่าและการผ่อนกฎการเดินทางมาเที่ยวไทย

ในปีนี้ ประเทศไทยตั้งเป้าที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้าน - 40 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับยอดสูงสุดเดิมที่ 40 ล้านปี 2019 ก่อนการระบาดของโควิด-19

  • ที่มา: บลูมเบิร์ก

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG